(31 พ.ค. 66) เวลา 09.00 น. : นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าแนวทางการพัฒนาคลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร และคลองแสนแสบ โดยมี เลขานุการคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวกับการพัฒนาคลอง สำนักการระบายน้ำ สำนักการโยธา สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักพัฒนาสังคม สำนักอนามัย สำนักงานเขตที่มีพื้นที่ติดริมคลอง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 19 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง)
ที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานและพัฒนาพื้นที่คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร และคลองแสนแสบ สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างเขื่อนคลองเปรมประชากร ช่วงที่ 1 จากคลองบ้านใหม่ถึงบริเวณหมู่บ้านแกรนด์คาแนล ความยาว 581 เมตร ดำเนินการแล้วเสร็จ ช่วงที่ 2 จากสุดเขตกรุงเทพมหานครถึงคลองบ้านใหม่ และจากหมู่บ้านแกรนด์คาแนลถึงถนนสรงประภา ความยาว 5,000 เมตร อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ความคืบหน้า 2.70% บ้านรุกล้ำ 5 ชุมชน 1,066 หลัง ยังไม่มีการรื้อย้าย ช่วงที่ 3 จากถนนสรงประภาถึงถนนแจ้งวัฒนะ ความยาว 10,000 เมตร อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ความคืบหน้า 7.20% บ้านรุกล้ำ 13 ชุมชน 1,707 หลัง รื้อย้ายแล้ว 2 ชุมชน ช่วงที่ 4 จากถนนแจ้งวัฒนะถึงถนนเทศบาลสงเคราะห์ ความยาว 10,700 เมตร อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ความคืบหน้า 26% บ้านรุกล้ำ 13 ชุมชน 1,469 หลัง รื้อย้ายแล้ว 4 ชุมชน(ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ค.66)
สำหรับแผนการดำเนินการแก้ไขปัญหาการรุกล้ำคลองเปรมประชากร ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบบ้านรุกล้ำ 4,398 หลัง ในพื้นที่ 32 ชุมชน อยู่ในพื้นที่เขต 3 เขต ได้แก่ เขตดอนเมือง เขตหลักสี่ และเขตจตุจักร กำหนดแผนรื้อย้ายบ้านรุกล้ำ 14 ชุมชนเพื่อก่อสร้างเขื่อน ระหว่างเดือน มี.ค.- ก.ย. 66 ด้านผลการดำเนินการติดตามความร่วมมือให้ตรวจสอบอาคารของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีอาคารอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้มีการระบายน้ำเสียเป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร จำนวน 19 กระทรวง และหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ จำนวน 9 หน่วยงาน รวมทั้งสิ้น 28 หน่วยงาน จำนวน 657 อาคาร ปัจจุบันหน่วยงานมีหนังสือประสานขอให้สำนักการระบายน้ำเข้าตรวจสอบระบบบำบัดน้ำเสีย และสำนักการระบายน้ำเข้าตรวจสอบแล้ว จำนวน 3 อาคาร หน่วยงานแจ้งว่าอาคารมีระบบบำบัดน้ำเสียเป็นไปตามกฎหมายแล้ว จำนวน 65 อาคาร รวมหน่วยงานที่ประสานงานมาแล้ว จำนวน 68 อาคาร อาคารที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการออกหนังสือติดตาม ขอความร่วมมือให้ตรวจสอบการบำบัดน้ำทิ้งที่ออกจากอาคารของแต่ละหน่วยงาน
ในส่วนของการพัฒนาคลองแสนแสบและคลองสาขา ทำการสำรวจและคัดเลือกชุมชนต้นแบบเพื่อติดตั้งถังดักไขมัน รวม 26 ชุมชน จาก 21 เขตที่มีพื้นที่ติดริมคลอง ได้ชุมชนต้นแบบ 48 ชุมชน 9,722 ครัวเรือน มีเป้าหมายในการติดตั้งถังดักไขมัน ปีงบประมาณ 2566 จำนวน 4,487 ถัง ติดตั้งแล้ว 1,781ถัง (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ค.66) โดยในปีงบประมาณ 2565 ติดตั้งถังดักไขมันจำนวน 2,877 ถัง ทำการประเมินผลการใช้งาน 1,374 ถัง ใช้งานได้ดี 1,368 ถัง ชำรุด 6 ถัง จัดเก็บไขมันได้ 3.54 ลูกบาศก์เมตร ความคืบหน้าการติดตามการแก้ไขปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียสถานประกอบการในพื้นที่รัศมี 500 เมตร ริมคลองแสนแสบและคลองสาขาให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข (เฟส 2 : ต.ค.65 – เม.ย.66) สถานประกอบการที่ต้องติดตาม 155 แห่ง ดำเนินการแล้ว 138 แห่ง อยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไข 17 แห่ง
ทั้งนี้ รองปลัดกรุงเทพมหานคร มอบหมายสำนักการระบายน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสาน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. เพื่อเร่งรัดส่งมอบพื้นที่ เพื่อเร่งก่อสร้างเขื่อน พร้อมทั้งเจรจาทำความเข้าใจกับชุมชนที่รุกล้ำแนวเขื่อนอย่างสม่ำเสมอเพื่อทำการรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งติดตามและเร่งประสานความร่วมมือการบำบัดน้ำเสียภายในอาคาร สถานที่ราชการ อาคารรัฐวิสาหกิจในพื้นที่กทม. และเร่งติดตั้งบ่อดักไขมันภายในชุมชนและบ้านเรือนริมคลองให้ครบตามแผน และทำการประเมินการติดตั้งบ่อดักไขมันที่ผ่านมา พบปัญหาหรืออุปสรรคอย่างไร ให้ทำการวิเคราะห์และปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อให้ดำเนินการติดตั้งได้เร็วขึ้น และตรวจสอบและเร่งรัดการบำบัดน้ำเสียจากต้นทางของสถานประกอบการในระยะ 500 เมตร ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
———