นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม.กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในโรงเรียนสังกัด กทม.ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่เดือน ม.ค. – 1 พ.ค.66 พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สะสม 6,608 ราย คิดเป็นอัตราป่วยสะสม 120.26 รายต่อประชากรแสนคน ไม่พบผู้เสียชีวิต อัตราส่วนผู้ป่วยชายต่อหญิง คือ 1 : 0.83 อัตราป่วยจำแนกตามกลุ่มอายุสูงสุด คือ 5 – 9 ปี (702.59 ต่อประชากรแสนคน) รองลงมา ได้แก่ อายุ 10 – 14 ปี (492.15 ต่อประชากรแสนคน) และอายุ 0 – 4 ปี (322.34 ต่อประชากรแสนคน) ตามลำดับ ร้อยละของผู้ป่วยจำแนกตามกลุ่มอายุสูงสุด คือ 5 – 9 ปี (ร้อยละ 25) รองลงมา ได้แก่ อายุ 10 – 14 ปี (ร้อยละ 20) และอายุ 0 – 4 ปี (ร้อยละ 9) ตามลำดับ
กรุงเทพมหานครได้ประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในโรงเรียนสังกัด กทม.ในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเด็กนักเรียนและการแพร่ระบาดในลักษณะกลุ่มก้อนให้กับสถานศึกษาและศูนย์บริการสาธารณสุขทุกแห่งรับทราบ โดยกำชับให้เข้มงวดปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการป่วย เพื่อลดการแพร่เชื้อ ล้างมือบ่อย ๆ และเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีคนแออัด ขณะเดียวกันได้สร้างความเข้าใจและความตระหนักของประชาชน ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็ก และผู้สูงอายุให้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก เด็กนักเรียน และกลุ่มเสี่ยง 608 โดยสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และโควิด 19 พร้อมกันภายในวันเดียวกัน เพื่อลดอาการเจ็บป่วยรุนแรงและความเสี่ยงการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนของโรค ทั้งนี้ สามารถจองคิวฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยเลือกจองคิวเข้ารับการฉีดวัคซีนที่สถานพยาบาลใกล้บ้านที่สะดวก หรือแบบ walk in ได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน
ปรับปรุงห้องคอมฯ รร.กทม.คืบหน้ากว่า 100 ห้อง สนศ.แจงบริษัทฯ เพิ่มเติมวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจ ไม่กระทบวัตถุประสงค์โครงการฯ
นางสาวศุภร คุ้มวงศ์ รองผู้อำนวยการสำนักการศึกษา (สนศ.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กทม.กล่าวกรณีสื่อมวลชนเสนอข่าวบริษัทที่ชนะประกวดราคาเช่าระบบคอมพิวเตอร์โรงเรียนสังกัด กทม.แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของบริษัท หลังประกาศรายชื่อผู้ชนะประกวดราคาว่า สนศ.ได้ดำเนินการประกวดราคาโครงการงานจัดซื้อจัดจ้างตามโครงการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ พร้อมปรับปรุงห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน 437 โรงเรียน จำนวน 598 ห้อง และเช่าระบบคอมพิวเตอร์ พร้อมปรับปรุงห้องศูนย์ฝึกอบรมคอมพิวเตอร์และศูนย์ควบคุมระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สนศ.จำนวน 1 แห่ง วงเงินงบประมาณ 571,888,888 บาท โดยกลุ่มกิจการค้าร่วมเอ็นแอนด์ไอ (บริษัท ไอคลาวด์ จำกัด และบริษัท นิปด้า กรุ๊ป จำกัด) เป็นผู้ชนะการประกวดราคาโครงการฯ ขณะนี้ได้ส่งมอบงานปรับปรุงห้องคอมพิวเตอร์โรงเรียน จำนวน 101 ห้อง เมื่อวันที่ 3 พ.ค.66 ซึ่งอยู่ระหว่างคณะกรรมการตรวจรับพัสดุดำเนินการตรวจสอบและจะต้องส่งมอบงานปรับปรุงห้องอีก 200 ห้อง ภายในวันที่ 5 มิ.ย.66 เป็นรอบถัดไป
สำหรับกรณีการตั้งข้อสังเกตบริษัท ไอคลาวด์ จำกัด แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ หลังประกาศรายชื่อผู้ชนะประกวดราคา นั้น บริษัท ไอคลาวด์ จำกัด ได้จดทะเบียนเพิ่มเติมแก้ไขวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ จาก 58 ข้อ เหลือ 56 ข้อ โดยระบุในแบบ สชช.1 “ประกอบกิจการค้าและให้เช่าบริการอุปกรณ์สื่อสาร ภาพ และเสียง รวมถึงอุปกรณ์โทรศัพท์ภายในประเทศและนอกประเทศเพื่อการพาณิชย์ทุกชนิด” ซึ่งวัตถุประสงค์ข้อดังกล่าวเป็นการจดทะเบียนเพิ่มเติมในการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ และไม่มีผลกระทบต่อวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ คือ ข้อที่ (24) ประกอบกิจการค้าและให้เช่าบริการอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เครือข่าย รวมทั้งอุปกรณ์พ่วงทุกชนิด
ทั้งนี้ สนศ.ยืนยันได้ดำเนินการตามระเบียบตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 เพื่อให้การดำเนินโครงการฯ เป็นไปอย่างโปร่งใส เป็นธรรม คุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ โดยได้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ ตามเอกสารหลักฐานที่กำหนดไว้ตามข้อ 3.1 และข้อ 3.2 ของเอกสารประกวดราคาฯ ประกอบด้วย เอกสารหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล สำเนาสัญญาของการเข้าร่วมค้า หนังสือรับรองผลงาน และเอกสารตามข้อกำหนดอย่างละเอียดรอบครอบ ซึ่งพบว่า คู่สัญญามีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ การเป็นคู่สัญญาได้มีการวางหลักทรัพย์ค้ำประกันสัญญาในอัตราร้อยละ 5 ของวงเงินค่าเช่าตามสัญญา ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ข้อ 167 และไม่มีการเบิกเงินค่างวดงานล่วงหน้า ดังนั้น หน่วยงานสามารถตรวจรับพัสดุให้ถูกต้องครบถ้วนตามสัญญา จึงจะเริ่มสัญญาเช่า หากคู่สัญญาไม่สามารถส่งมอบงานตามสัญญาได้ สนศ.สามารถปรับตามสัญญา หรือบอกเลิกสัญญา รวมทั้งเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้
เขตหลักสี่ลอกท่อระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วมในชุมชนพงษ์เพชรพัฒนา ซอยงามวงศ์วาน 35
นางสมฤดี ลันสุชีพ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ กทม.กล่าวกรณีประชาชนที่พักอาศัยในชุมชนพงษ์เพชรพัฒนา ซอยงามวงศ์วาน 35 เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาท่อระบายน้ำในชุมชนอุดตัน และไม่มีการลอกท่อมานานว่า สำนักงานเขตหลักสี่ ได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณซอยงามวงศ์วาน 35 ซอยหลัก แยก 1 แยก 2 และแยก 3 เมื่อวันที่ 11 พ.ค.66 พบว่า ไม่มีน้ำท่วมขัง โดยบริเวณดังกล่าวสำนักงานเขตฯ ได้ลอกท่อระบายน้ำแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 23 มี.ค.66 ส่วนซอยงามวงศ์วาน 35 ซอยย่อย ทางเข้าอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง
เป็นซอยส่วนบุคคล กว้างประมาณ 5.00 เมตร ยาวประมาณ 50.00 เมตร ซึ่งมีระดับต่ำกว่าซอยงามวงศ์วาน 35 ทำให้มีน้ำท่วมขังบริเวณกลางซอย สำนักงานเขตฯ จึงแก้ไขปัญหาเบื้องต้น โดยลอกท่อระบายน้ำและตักขยะออกจากบ่อพักท่อระบายน้ำในซอยดังกล่าว เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน รวมทั้งจะได้เจรจากับเจ้าของที่ดิน อุทิศให้เป็นซอยสาธารณะ เพื่อที่สำนักงานเขตฯ จะได้สำรวจ ออกแบบ และของบประมาณแก้ไขปัญหาถาวรต่อไป
กทม.เร่งปรับปรุงทางเท้าถนนลาดพร้าว ซอย ๔
นายพรเลิศ เพ็ญพาส ผู้อำนวยการเขตจตุจักร กทม.กล่าวกรณีมีการตั้งข้อสังเกตทางเท้าบริเวณถนนลาดพร้าว ช่วงปากซอยลาดพร้าว ๔ พบสัญลักษณ์บนทางเท้าทั้งรูปจักรยานและรูปผู้ใหญ่จูงเด็กอยู่ใกล้กันอาจสร้างความสับสนว่าเป็นทางจักรยาน รวมถึงรากต้นไม้ดันแผ่นปูทางเท้าหลุดร่อนไม่เรียบเสมอทางว่า บริเวณถนนลาดพร้าวอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักการโยธา (สนย.) กทม. โดยทางจักรยานจะเป็นพื้นผิวทราย แยกจากทางเท้าที่เป็นกระเบื้อง และมีทางเท้าเพิ่มเติมจากพื้นที่เวนคืนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งมีเสาเหล็กแบ่งกั้นพื้นที่ไว้ระหว่างซอยลาดพร้าว ๔ ถึงห้าแยกลาดพร้าว อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้ประสานสำนักการโยธาแก้ไขปรับปรุงทางเท้าให้มีสภาพดีขึ้น ส่วนกรณีรากต้นไม้ดันแผ่นกระเบื้องหลุดร่อน สำนักงานเขตฯ จะดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป