(12 พ.ค.66) เวลา 14.00 น. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้า “โครงการคลองเปรมประชากร หน้าบ้าน ริมคลอง น่ามอง น่าอยู่” เพื่อสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน และเป็นต้นแบบในการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากร โดยมี นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักพัฒนาสังคม สำนักงานเขตดอนเมือง สำนักงานเขตหลักสี่ สำนักงานเขตจตุจักร สำนักงานเขตบางชื่อ สำนักงานประชาสัมพันธ์ พร้อมด้วยผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ กรมธนารักษ์ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) บริษัท บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 18 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากเหตุการณ์มหาอุทกภัยปี 2554 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2555 เห็นชอบข้อเสนอการบริหารจัดการสิ่งรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ โดยให้กระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานคร ร่วมกันดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่บุกรุกลำน้ำสาธารณะ และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พิจารณาจัดหาที่พักอาศัยถาวรให้กับผู้บุกรุก โดยระยะเร่งด่วนรัฐบาลได้กำหนดคลองสำคัญที่มีปัญหาการรุกล้ำ จำนวน 9 คลอง ได้แก่ คลองบางซื่อ คลองบางเขน คลองลาดพร้าวและคลองสอง คลองเปรมประชากร คลองพระยาราชมนตรี คลองสามวา คลองลาดบัวขาว คลองประเวศบุรีรมย์ และคลองพระโขนง โดยการพัฒนาคลองสายหลักที่มีปัญหาการรุกล้ำในระยะเร่งด่วนดังกล่าว ได้เริ่มดำเนินการที่คลองลาดพร้าว และบางส่วนของคลองบางชื่อ ต่อมาได้ดำเนินการพัฒนาคลองเปรมประชากร เนื่องจากคลองสายหลักดังกล่าวมีปัญหาการรุกล้ำจำนวนมาก และผู้รุกล้ำอยู่อาศัยมานาน โดยก่อนดำเนินการได้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งประชาชนจำนวนมากยินดีให้ความร่วมมือ แต่มีความต้องการอยู่อาศัยในพื้นที่เดิม จึงได้มีแนวคิดการออกแบบก่อสร้างบ้านมั่นคงริมคลองบริเวณที่คลองมีความกว้างเพียงพอ ที่คลองลาดพร้าว บางส่วนของคลองบางชื่อ และคลองเปรมประชากร โดยในส่วนของการระบายน้ำให้พิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ โดยการก่อสร้างเขื่อนให้ลึกลง เพิ่มประสิทธิภาพของสถานีสูบน้ำ รวมถึงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ เพื่อทดแทนพื้นที่ทางน้ำที่สูญเสียไปเนื่องจากการก่อสร้างบ้านมั่นคงริมคลอง
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันได้มีการดำเนินการแล้ว จำนวน 2 คลอง คือ คลองลาดพร้าว และคลองเปรมประชากร โดยคลองลาดพร้าว เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2559 รื้อย้ายบ้านรุกล้ำได้ประมาณ 2,767 หลัง จากบ้านรุกล้ำเดิมทั้งหมด 6,566 หลัง โดยมีผู้รุกล้ำที่ให้ความร่วมมือแต่ยังไม่สามารถรื้อย้ายบ้านรุกล้ำเดิมและก่อสร้างบ้านมั่นคงอีก จำนวน 2,578 หลัง เนื่องจากในพื้นที่มีผู้ไม่เข้าร่วมกระจายอยู่ในหลายพื้นที่ โดยมีผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือประมาณ 1,220 หลัง ปัจจุบันก่อสร้างบ้านมั่นคงแล้วเสร็จ จำนวน 3,536 ครัวเรือน จากเป้าหมายทั้งหมด 7,069 ครัวเรือน คิดเป็นความก้าวหน้าประมาณ 50% ส่วนคลองเปรมประชากร เริ่มดำเนินการปี 2562 รื้อย้ายบ้านรุกล้ำได้ประมาณ 850 หลัง จากบ้านรุกล้ำเดิมทั้งหมด 5,098 หลัง ก่อสร้างบ้านมั่นคงแล้วเสร็จ จำนวน 844 หลัง อยู่ในพื้นที่ กทม. จำนวน 626 หลัง และอยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จำนวน 218 หลัง และอยู่ระหว่างก่อสร้าง 305 หลัง อยู่ในพื้นที่ กทม. จำนวน 219 หลัง และอยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จำนวน 86 หลัง ครัวเรือน จากเป้าหมายทั้งหมด 6,386 หลัง คิดเป็นความก้าวหน้าประมาณ 18%
ปัญหาอุปสรรคที่สำคัญ คือผู้ที่ยังไม่เข้าร่วมโครงการ โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่เจรจาสร้างความเข้าใจอย่างสม่ำเสมอ โดยที่ผ่านมาในส่วนของรัฐบาลและกรุงเทพมหานคร ได้มีการประชุมติดตามและขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาคลองเปรมประชากร กรุงเทพมหานครได้ร่วมกับหลายหน่วยที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนแม่บทฯ โดยได้ออกแบบพัฒนาด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนโดยการจัดที่อยู่อาศัยริมคลอง พัฒนาด้านอาชีพ การปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลอง การจัดระบบสาธารณูปโภคและผังเมือง การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจชุมชน แผนพัฒนาจุดเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ ล้อ-ราง-เรือ-ทางจักรยาน และแผนพัฒนาการท่องเที่ยววิถีชุมชน ปัจจุบันมีชุมชนที่ได้ดำเนินการพัฒนาแล้ว เช่น ชุมชนประชาร่วมใจ 1 และชุมชนประชาร่วมใจ 2 เขตจตุจักร ซึ่งมีการก่อสร้างเขื่อน และบ้านมั่นคงเสร็จแล้ว รวมถึงมีการปลูกต้นไม้ และปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลอง ทำให้คลองและริมคลองมีสภาพสะอาดสวยงาม ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลอง มีบ้านอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งกรมธนารักษ์ได้ให้เช่าพื้นที่ 30 ปี และต่อสัญญาครั้งละ 30 ปีต่อไป นอกจากนี้กรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการพัฒนาด้านอาชีพเพื่อให้ประชาชนมีรายได้และมีความมั่นคงยิ่งขึ้นไป
“ในพื้นที่ที่มีการก่อสร้างเขื่อนและก่อสร้างบ้านมั่นคงแล้ว กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการขุดลอกคลองเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม มีการรวบรวมน้ำเสียจากบ้านมั่นคงเข้าสู่ระบบรวบรวมน้ำเสีย เพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ มีการพัฒนาพื้นที่ริมคลองให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ทางเดินริมคลองมีการพัฒนาเป็นทางจักรยาน รวมทั้งจะมีการติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างและกล้องวงจรปิด มีการพัฒนาด้านอาชีพ รวมทั้งมีแผนการพัฒนาการเดินเรือในคลอง นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมการพัฒนาพื้นที่ริมคลองเปรมประชากร ตาม “โครงการคลองเปรมประชากร หน้าบ้าน ริมคลอง น่ามอง น่าอยู่” โดยจะลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองเปรมประชากร เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ริมคลองให้มีความสะอาดสวยงามเป็นชุมชนน่าอยู่ พัฒนาอาชีพสร้างรายได้สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง เพื่อขยายผลชุมชนชนน่าอยู่ ชุมชนเข้มแข็งไปยังทุกชุมชนริมคลองเปรมประชากรต่อไป” ปลัดฯ ขจิต กล่าวในตอนท้าย
#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี # โครงสร้างดี
—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)