กทม.เตรียมพร้อมทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด 19
นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กรุงเทพมหานคร โดย สนอ.ได้เตรียมทีมสอบสวนโรคของกองควบคุมโรคติดต่อและศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ทั้ง 69 แห่ง พร้อมลงพื้นที่สอบสวนโรคกรณีพบผู้ป่วยโควิด 19 เป็นกลุ่มก้อน หรือเสียชีวิตที่บ้าน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด พร้อมตรวจสอบสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ตลอดจนรณรงค์ส่งเสริมความรู้ สร้างความเข้าใจ และกระตุ้นเตือนประชาชนให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะเข้าร่วมกิจกรรม หรือไปในสถานที่ที่มีกลุ่ม 608 จำนวนมาก หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงการติดเชื้อโควิด 19 และเน้นย้ำเรื่องการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด 19 หรือได้รับวัคซีนไม่ครบโดสให้เข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้ครบโดส และฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นตามเวลา ที่กำหนด เพื่อความปลอดภัยจากโควิด 19 โดยรับบริการได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ทั้ง 69 แห่ง ในวันพุธ (รับ Walk in) และวันศุกร์ (รับ Walk in และลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน QueQ) ระหว่างเวลา 13.00 – 15.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ
นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. – 31 ส.ค.66 ประชาชนที่มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสามารถเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยสามารถรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่พร้อมกับวัคซีนโควิด 19 ได้ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อร่วมกันทั้งโรคไข้หวัดใหญ่และโรคโควิด 19 รวมทั้งลดอาการเจ็บป่วยรุนแรงและความเสี่ยงการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนของโรค
กทม.เตรียมพร้อมเฝ้าระวังโควิด 19 รร.ในสังกัด ตรวจคัดกรองสุขภาพนักเรียนตามมาตรฐาน
นางสาวศุภร คุ้มวงศ์ รองผู้อำนวยการสำนักการศึกษา (สนศ.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กทม.กล่าวถึงมาตรการเชิงรุกเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในโรงเรียนสังกัด กทม.โดยเฉพาะในช่วงเปิดภาคเรียนว่า กรุงเทพมหานคร โดย สนศ.ได้ประชาสัมพันธ์ให้นักเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร ผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียน และผู้ปกครองที่ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด 19 เข้ารับการฉีดวัคซีน และวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากโรคโควิด 19 รวมทั้งประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานครเป็นสำคัญ ตลอดจนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ หากมีความจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และเฝ้าระวังตนเอง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่น ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือให้นักเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร ผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียน ตลอดจนผู้ปกครองให้ปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้แก่ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ ตรวจคัดกรอง วัดไข้ ทำความสะอาด ใช้ช้อนกลางส่วนตัว รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ พร้อมประสานผู้ปกครองให้เฝ้าระวังและตรวจคัดกรองบุตรหลานก่อนพามาโรงเรียน หากพบว่า มีอาการไข้ ไอ จาม หรืออาการอื่นใด ให้นักเรียนหยุดเรียน เพื่อเฝ้าดูอาการที่บ้าน หรือพบแพทย์ เพื่อลดความเสี่ยงการรับเชื้อโรคเพิ่มขึ้นและลดการแพร่กระจายเชื้อในโรงเรียน ตลอดจนขอความร่วมมือผู้ปกครองแจ้งข้อมูลการเจ็บป่วยของนักเรียนให้โรงเรียนทราบ นอกจากนั้น ได้รณรงค์เน้นย้ำส่งเสริมความรู้และกระตุ้นเตือนผู้ปกครองและเด็กนักเรียนโรงเรียนสังกัด กทม.เกี่ยวกับวิธีป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิด 19 ทุกสายพันธุ์ พร้อมทั้งให้คำแนะนำผู้ปกครองติดตามข้อมูลข่าวสารการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ รวมถึงหลีกเลี่ยงการพาบุตรหลานไปในสถานที่ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม.กล่าวว่า สนอ.ได้แนะนำการเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในโรงเรียนสังกัด กทม.โดยให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคล สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่อากาศไม่ถ่ายเท หรือมีอาการทางเดินหายใจ หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงการติดเชื้อ ตรวจ ATK เมื่อมีอาการทางเดินหายใจ จัดสภาวะแวดล้อมของสถานศึกษาให้สะอาด ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะตามหลักสุขาภิบาล มีการระบายอากาศที่ดี ประเมินความเสี่ยงตามความเหมาะสม ส่งเสริมการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพแก่ครู บุคลากร นักเรียน และผู้ปกครอง ปฏิบัติตามสุขภาวะส่วนบุคคลขั้นพื้นฐาน เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันในการป้องกันควบคุมโรค รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้แก่เด็กนักเรียนและผู้ปกครองในการเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนอย่างปลอดภัย มีการตรวจคัดกรองสุขภาพนักเรียนตามมาตรฐานงานอนามัยโรงเรียน เฝ้าระวังสังเกตอาการ กรณีพบกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มก้อนให้ประสานปรึกษาศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ และส่งต่อเข้ารับการรักษาตามสิทธิการรักษา หากมีการติดเชื้อในสถานศึกษาให้จัดการเรียนการสอนตามความเหมาะสมโดยไม่ปิดเรียน เน้นย้ำให้ครูและบุคลากรผู้เกี่ยวข้องที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนและนักเรียนทุกคนทุกชั้นได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ตามเกณฑ์ และเข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ทั้ง ๖๙ แห่ง ในวันพุธและวันศุกร์ ระหว่างเวลา ๑๓.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. ยกเว้นวันหยุดราชการ