(27 พ.ย. 68) เวลา 12.45 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดระเบียบในพื้นที่เขตสะพานสูง ประกอบด้วย 

ติดตามการจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ วินซาลามัด ถนนกรุงเทพกรีฑา ผู้ขับขี่ 23 ราย สถานที่ตั้งวินและจุดจอดรถจักรยานยนต์อยู่ในพื้นที่สาธารณะริมไหล่ทาง ปัจจุบันเขตฯ มีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะในพื้นที่ 27 วิน ผู้ขับขี่ 564 คน เป็นวินรถจักรยานยนต์สาธารณะต้นแบบ 10 วิน ซึ่งเขตฯ จะต้องตรวจความเรียบร้อยตามแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีข้อใดไม่เรียบร้อยให้แจ้งข้อบกพร่องแก่ผู้ขับขี่ เพื่อดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องเรียบร้อย ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ จัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์สาธารณะให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ตรวจตามแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะอย่างต่อเนื่อง เน้นย้ำผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะให้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด อาทิ การแต่งกาย อัตราค่าโดยสาร ป้ายทะเบียนรถ สถานที่ตั้งวิน วินัยจราจร รวมถึงตรวจสอบจำนวนผู้ขับขี่ในแต่ละวิน จัดทำข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน ตรวจสอบในพื้นที่ไม่ให้มีการแยกไปตั้งวินย่อยอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ เขตฯ มีจุดติดตั้งกล้อง CCTV จับภาพอัจฉริยะผ่านระบบ BMA AI CAMERA จำนวน 1 จุด บริเวณร้านสะดวกซื้อ 7-11 ใกล้ซอยราษฎร์พัฒนา 24 ถนนราษฎร์พัฒนา เพื่อตรวจจับผู้กระทำความผิดขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า กวดขันวินัยจราจรเปรียบเทียบปรับแก่ผู้ฝ่าฝืนนำรถยนต์ขึ้นมาจอดหรือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า บังคับการตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565 ซึ่งเขตฯ ได้ติดป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน ตั้งวางแผงเหล็กป้องกันรถจักรยานยนต์ขึ้นมาบนทางเท้า ทั้งนี้ ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับเป็นพินัยไม่เกิน 5,000 บาท 

พัฒนาสวน 15 นาที สวนสะพานสูงส่งเสริมสุขภาพ (ศูนย์บริการสาธารณสุข 68) ซอยรามคำแหง 118 แยก 13 ข้างสำนักงานเขตสะพานสูง ซึ่งเขตฯ ได้พัฒนาที่ว่างภายในศูนย์บริการสาธารณสุข 68 ตัดแต่งกิ่งไม้ ถางหญ้า ปรับสภาพพื้นที่ ปรับปรุงเป็นสวน 15 นาที จัดทำทางเดินวิ่งรอบบ่อน้ำกลางสวน สร้างศาลาที่พัก ตั้งวางม้านั่ง ปลูกไม้พุ่มไม้ประดับเพิ่มเติม รวมถึงอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นอยู่เดิมภายในสวน ปัจจุบันเขตฯ มีสวน 15 นาที (สวนเดิม) จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ 1.สวนสุขภาพเคหะชุมชนหัวหมาก พื้นที่ 11,000 ตารางเมตร 2.สวนสุวรรณพฤกษ์ (สวนหมู่บ้านพฤกษชาติ) พื้นที่ 3,650 ตารางเมตร สวน 15 นาที (สวนใหม่) จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ 1.สวนชุมชนฮิดายะห์ พื้นที่ 180 ตารางเมตร 2.สวนวัดลาดบัวขาว (ราชโยธา) พื้นที่ 880 ตารางเมตร 3.สวนหย่อมซอยกรุงเทพกรีฑา 32 พื้นที่ 140 ตารางเมตร 4.สวนหย่อมหมู่บ้านนักกีฬาประชาร่วมใจ (สวนต่อเนื่องจากสวนสุขภาพเคหะชุมชนหัวหมาก) พื้นที่ 1,500 ตารางเมตร 5.สวน 15 นาที ชุมชนกระทุ่มเดี่ยว พื้นที่ 700 ตารางเมตร 6.สวนสะพานสูงส่งเสริมสุขภาพ (ศูนย์บริการสาธารณสุข 68) พื้นที่ 2,800 ตารางเมตร อยู่ระหว่างดำเนินการ จะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 68 7.สวน 15 นาที ชุมชนลาดบัวขาว ซอยกาญจนาภิเษก 12 พื้นที่ 900 ตารางเมตร อยู่ระหว่างออกแบบสวน 8.สวน 15 นาที ริมคลองลาดบัวขาว ซอยเคหะร่มเกล้า 72 แยก 5 พื้นที่ 1,350 ตารางเมตร อยู่ระหว่างขอใช้พื้นที่ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ จัดทำสวน 15 นาที ให้ครบทั้ง 10 แห่ง พิจารณาถึงความเหมาะสมของพื้นที่ โดยออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในสวนให้ตรงความต้องการของประชาชน เพื่อให้การจัดทำสวน 15 นาที เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเกิดประโยชน์แก่ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการอย่างแท้จริง 

เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ โครงการนลิน อเวนิว 2 ซอยรามคำแหง 144 พื้นที่ 8 ไร่ 85 ตารางวา บ้านเรือน 171 หลัง มีผู้อยู่อาศัย 131 หลัง เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะกับกรุงเทพมหานครตั้งแต่ปี 2567 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ คัดแยกขยะเศษอาหาร ประสานเกษตรกรมารับไปเลี้ยงปลา และส่งให้เขตฯ จัดเก็บนำไปทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ 2.ขยะรีไซเคิล คัดแยกขยะรีไซเคิล รวบรวมไว้ในจุดที่กำหนด นำไปขายเป็นรายได้ของโครงการฯ เดือนละ 1 ครั้ง 3.ขยะทั่วไป คัดแยกขยะทั่วไป รวบรวมไว้ในจุดที่กำหนด เขตฯ จัดเก็บทุกวันเสาร์ 4.ขยะอันตราย คัดแยกขยะอันตราย รวบรวมไว้ในจุดที่กำหนด เขตฯ จัดเก็บ 6 เดือน/ครั้ง สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 79,360 ลิตร/เดือน หลังคัดแยก 78,000ลิตร/เดือน ขยะรีไซเคิลหลังคัดแยก 160 ลิตร/เดือน ขยะอินทรีย์หลังคัดแยก 1,200 ลิตร/เดือน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้คำแนะนำในการคัดแยกขยะประเภทต่าง ๆ เพื่อให้จัดเก็บมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งปริมาณขยะที่คัดแยกจะมีผลต่ออัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการมูลฝอยฉบับใหม่ โดยมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนตุลาคม 2568 พร้อมทั้งให้เขตฯ ตรวจสอบข้อมูลบ้านเรือนประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ BKK WASTE PAY แล้ว แต่ยังส่งข้อมูลไม่ครบถ้วนตามที่กำหนด ส่วนใหญ่ยังขาดรูปภาพประกอบของขยะแต่ละประเภท ให้สร้างความเข้าใจและให้คำแนะนำแก่ประชาชนในการส่งข้อมูลให้ครบถ้วน เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ในการชำระค่าธรรมเนียมขยะในอัตราใหม่จาก 60 บาท เป็น 20 บาทต่อเดือน 

ตรวจมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 โครงการ Grande Pleno กรุงเทพกรีฑา ซึ่งเป็นการก่อสร้างบ้านแฝด 2 ชั้น จำนวน 184 ยูนิต ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามวิธีและเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตในการก่อสร้างตามกฎกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2526) และแก้ไขเพิ่มเติมตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 67 (พ.ศ. 2563) และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างเคร่งครัด อาทิ จัดทำรั้วโดยรอบในระดับความสูงไม่น้อยกว่า 6 เมตร ฉีดล้างทำความสะอาดล้อรถบรรทุกที่ผ่านเข้าออกโครงการ เปิดเครื่องพ่นละอองน้ำบริเวณทางเข้าออกโครงการและพื้นที่โดยรอบตลอดเวลาทำงาน ติดตั้งเครื่องตรวจวัดค่าฝุ่น PM2.5 และจอแสดงผลด้านหน้าโครงการ ตรวจวัดค่าควันดำรถบรรทุกให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามรอบที่กำหนด นอกจากนี้ เขตฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการตรวจสอบและควบคุมสถานประกอบการที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ประเภทสถานที่ก่อสร้างขนาดใหญ่ ประเภทสถานประกอบการ/โรงงาน ประเภทแพลนท์ปูน/ควันดำในสถานที่ต้นทาง พร้อมทั้งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 ควบคุมไม่ให้ปล่อยมลพิษในอากาศเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 

พร้อมกันนี้ ได้สอบถามถึงจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า เขตฯ มีพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน จำนวน 1 จุด คือ บริเวณถนนราษฎร์พัฒนา (ตลาดลาว) ผู้ค้า 45 ราย ตั้งแต่ปากซอยราษฎร์พัฒนา 20 ถึงปากซอยราษฎร์พัฒนา 24 ผู้ค้าจะทำการค้าในวันเสาร์และวันอาทิตย์ ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-10.00 น. ซึ่งจุดดังกล่าวอยู่ระหว่างพิจารณาจัดทำเป็นตลาดชุมชน นอกจากนี้ในปี 66 เขตฯ ได้ประสานศูนย์การค้าเดอะพาซิโอทาวน์ รามคำแหง เพื่อจัดทำ Hawker Center บริเวณลานจอดรถหน้าศูนย์การค้าฯ สามารถรองรับผู้ค้าได้ 20 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-10.00 น. ต่อมาปี 67 เขตฯ ได้สำรวจพื้นที่ว่างใต้สะพานต่างระดับถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (ฝั่งตะวันออก) ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดของของสำนักการโยธา เพื่อจัดทำ Hawker Center รองรับผู้ค้าได้ 150 ราย ส่วนในปี 68 เขตฯ ได้ประสานพื้นที่เอกชน เพื่อจัดทำ Hawker Center บริเวณถนนราษฎร์พัฒนา ระหว่างซอยราษฎร์พัฒนา 18-20 สามารถรองรับผู้ค้าได้ 100 ราย จัดเก็บค่าเช่าในอัตราที่เจ้าของพื้นที่กำหนด 

ในการนี้มี นายพงศธร ชั้นไพศาลศิลป์ ผู้อำนวยการเขตสะพานสูง พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตสะพานสูง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล 

#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี #เศรษฐกิจดี #ปลอดภัยดี #เดินทางดี 

#บ้านนี้ไม่เทรวม #แยกขยะจ่ายน้อยกว่า #แยก20ไม่แยก60 #BKKWASTEPAY 

—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)