(24 พ.ย. 68) นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรมการสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร ภายใต้โครงการส่งเสริมการพัฒนาทักษะโค้ดดิ้ง (Coding Literacy) ในระดับชั้นประถมศึกษาอย่างองค์รวม ณ หอประชุมใหญ่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

รองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าวว่า โครงการสำคัญในวันนี้จะเป็นอีกก้าวหนึ่งให้การศึกษาเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย สำหรับเรื่อง Coding นั้นมีมานานแล้ว แต่อีกคำสำคัญคือ AI ซึ่งถือเป็นคำแห่งปีมาหลายปีแล้ว ทำอย่างไรให้นำ AI ไปใช้ในโรงเรียน กทม. ได้ จึงมีเรื่องสำคัญ 3 ข้อที่น่าจะเป็นหัวใจ คือ ข้อแรก ต้องโฟกัสที่ทักษะมากกว่าเครื่องมือหรือ Tools วันนี้เรากำลังทำหลักสูตรท่ามกลางโลกและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปทุกวัน สิ่งสำคัญจึงไม่ใช่ Tools ที่เราจะใช้กัน แต่คือทักษะที่เรานำไปใช้สอนนักเรียน

รองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าวถึงหัวใจข้อที่ 2 ว่า ต้องสร้างวัฒนธรรมของความผิดพลาดให้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร เพราะความผิดพลาดและฝึกแก้ไขปัญหาจะทำให้เราเก่งขึ้น ในการเรียนการสอนเทคโนโลยีใหม่ ๆ สิ่งที่หลายคนกังวลคือกลัวที่สอนผิด แต่หัวใจสำคัญของนวัตกรรมคือความผิดพลาด เราต้องมีวัฒนธรรมที่พร้อมรับความผิดพลาดในหลักสูตรไม่มากก็น้อย ต้องได้ทดลองเพื่อให้เรียนรู้ความผิดพลาดต่าง ๆ ที่จะทำให้เกิดก้าวสำคัญให้เราเก่งขึ้น และข้อที่สาม คือ การออกแบบหลักสูตรควรมีความสอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนนั้น ๆ ให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ของการสร้างนวัตกรรม เพื่อเป็นความรู้ในการแก้ไขปัญหา Coding Literacy อาจเป็นคำที่ฟังดูยาก แต่แท้จริงแล้วสามารถเป็นเรื่องใกล้ตัวได้หมด แม้แต่การเดินไปโรงอาหารก็เป็น Coding ได้

“ขอบคุณสำนักการศึกษาที่ขับเคลื่อนโครงการนี้ ขอบคุณคณะที่ปรึกษาโครงการ และคณาจารย์ทุกท่านที่ร่วมพัฒนาหลักสูตรไปด้วยกัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมในวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่การพัฒนา Coding ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในสถานศึกษา และพัฒนาให้โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครเปลี่ยนไป” รองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าว

สำหรับการจัดกิจกรรมการสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมการพัฒนาทักษะโค้ดดิ้ง (Coding Literacy) ในระดับชั้นประถมศึกษา ซึ่งกรุงเทพมหานคร โดย กองเทคโนโลยีการศึกษา สำนักการศึกษา เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาหลักสูตรที่เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมทานคร และเพื่อเตรียมความพร้อมให้เยาวชนของ กทม. มีทักษะที่จำเป็นในการเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล

กิจกรรมครั้งนี้เป็นการสร้างการมีส่วนร่วม โดยเปิดโอกาสให้ผู้บริหารสถานศึกษาและหัวหน้าฝ่ายการศึกษาได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น วิเคราะห์ และเสนอแนวทางในการปรับปรุงหลักสูตร ร่วมกับคณะที่ปรึกษาและทีมวิทยากร รศ.ดร.พิชญ์วดี กิตติปัญญางาม หัวหน้าโครงการฯ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อให้หลักสูตรที่ออกแบบขึ้นสามารถตอบสนองต่อความต้องการของนักเรียนและโรงเรียนในแต่ละพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในการนี้ นายชนินทร์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการกองเทคโนโลยีการศึกษา ผู้บริหารและผู้แทนสถานศึกษา 6 กลุ่มเขต คณะที่ปรึกษาและทีมวิทยากรโครงการ และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมงาน

#โรงเรียนกทมเปลี่ยนไปแล้ว #เรียนดี #กองเทคโนโลยีการศึกษา #สำนักการศึกษา #กทม