เสียงปรบมือดังกึกก้องในห้องประชุมของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เมื่อพิธีกรประกาศผลอย่างเป็นทางการว่าทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมืองแห่งชาติ (USAR Thailand) ผ่านการประเมิน INSARAG External Classification (IEC) ตามมาตรฐานสากลของสหประชาชาติได้สำเร็จ

บรรยากาศอบอวลด้วยความปิติ รอยยิ้มแห่งความสุขของเจ้าหน้าที่ผู้ทุ่มเททั้งกายและใจตลอดเส้นทางอันยาวนาน สะท้อนให้เห็นว่าวันนี้ (14 พ.ย. 68) ไม่ใช่เพียงวันประกาศผล แต่เป็นวันแห่งความหมายของผู้เกี่ยวข้องทุกคน เพราะนี่คือ “11 ปีที่รอคอย” ของภารกิจยกระดับขีดความสามารถด้านการกู้ภัยของประเทศไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานโลก

● ก้าวสำคัญที่ไม่ได้มาด้วยโชค แต่ด้วยความทุ่มเทร่วมกันของ 6 หน่วยงานหลัก

ทีม USAR Thailand ได้ผสานกำลังจาก 6 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมการแพทย์ กรุงเทพมหานคร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม และบริษัท เอ็นพีซี เซฟตี้ แอนด์ เอ็นไวรอนเมนทอล เซอร์วิส จำกัด เข้าร่วมโครงการประเมินชุดค้นหาและกู้ภัยในเมืองแห่งชาติตามระบบของคณะที่ปรึกษาด้านการค้นหาและกู้ภัยระหว่างประเทศ (INSARAG External Classification: IEC) ระหว่างวันที่ 10 – 14 พ.ย. 68 ณ สถาบันพัฒนาบุคลากรด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดปทุมธานี ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 16 ชัยนาท ศูนย์ฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน จังหวัดชัยนาท

● 36 ชั่วโมงแห่งการทดสอบ…ที่วัดใจมากกว่าความสามารถ

กระบวนการประเมินเป็นไปอย่างเข้มข้น มีการนำเสนอข้อมูล โครงสร้างทีม การตรวจอุปกรณ์ และการฝึกภาคสนามต่อเนื่อง 36 ชั่วโมงอย่างไม่หยุดพัก ภายใต้สถานการณ์จำลองแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เพื่อทดสอบความสามารถของทีมให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล บน 5 ภารกิจหลัก ได้แก่ 1. Management (การบริหารจัดการและอำนวยการปฏิบัติงาน) 2. Search (การค้นหาผู้ประสบภัย) 3. Rescue (การกู้ภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัย) 4. Medical (การปฐมพยาบาลและดูแลรักษาทางการแพทย์) และ 5. Logistics (การสนับสนุนด้านยุทธภัณฑ์และสาธารณูปโภค เช่น อาหาร น้ำ เครื่องมือ และการขนส่ง) ซึ่งทีม USAR Thailand ต้องทำให้ผ่านเช็กลิสต์ตามมาตรฐาน INSARAG ทั้งหมด 172 ข้อ

โดยในวันนี้ เมื่อนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดี ปภ. ขึ้นกล่าวแสดงความยินดี เสียงปรบมือทั้งห้องดังรับทันที

อธิบดี ปภ. ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า ความสำเร็จครั้งนี้คือบทพิสูจน์ศักยภาพของประเทศไทย และเป็นหลักฐานว่าการกู้ภัยไทยสามารถก้าวไปสู่การช่วยเหลือประเทศอื่นตามหลักมนุษยธรรมสากลได้อย่างภาคภูมิ

● “11 ปี… 11 ปีที่รอคอย” เสียงที่ก้องกังวานตลอดพิธี

พิธีกรได้กล่าวซ้ำหลายครั้งด้วยน้ำเสียงเปี่ยมความหมาย ไม่ว่าจะเป็น

“11 ปีที่ทุ่มเท”
“11 ปีที่รอคอย”
หรือ “ครั้งแรกในรอบ 11 ปีของประเทศไทย”

ตัวเลขนี้จึงเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของความพยายามและหัวใจของเจ้าหน้าที่ทุกนาย ที่ทุ่มเทเวลาฝึกซ้อม การวางระบบบัญชาการ การเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดของทุกภาคีเครือข่ายอย่างเป็นทีมเวิร์ก

● กรุงเทพมหานครร่วมเป็นหนึ่งในความสำเร็จ

สำหรับพิธีการประกาศผลและการแถลงข่าวการประเมินชุดค้นหาและกู้ภัยในเมืองแห่งชาติตามระบบของคณะที่ปรึกษาด้านการค้นหาและกู้ภัยระหว่างประเทศ ที่จัดขึ้นวันนี้ ณ ห้องประชุม 1 ปภ. ชั้น 5 อาคาร 3 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขตดุสิต รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เข้าร่วมเป็นเกียรติและแสดงความยินดีในฐานะหนึ่งในหน่วยงานหลักที่เป็นกำลังสำคัญของทีม USAR Thailand เพราะในทุกภารกิจกู้ภัยในเมือง ไม่ว่าจะไฟไหม้ อาคารถล่ม หรือเหตุฉุกเฉินที่ซับซ้อน บุคลากรจากกรุงเทพมหานครคือหนึ่งในกำลังสำคัญที่ยืนเคียงข้างทีมระดับชาติชุดนี้เสมอ

ซึ่งรอยยิ้มและแววตาของเจ้าหน้าที่ กทม. ในห้องประชุม สะท้อนความภูมิใจไม่ต่างจากทุกหน่วยงาน เพราะนี่คือความสำเร็จที่พวกเขามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

โดยผู้เข้าร่วมพิธีในวันนี้มีทั้งผู้บริหาร หัวหน้าหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เข้าร่วมการประเมิน Mentor (คณะพี่เลี้ยง/ที่ปรึกษา) Classifier (คณะผู้ประเมิน) สุนัข K-9 และผู้เกี่ยวข้องทุก ๆ ฝ่าย

● ก้าวต่อไปของทีมกู้ภัยไทยบนเวทีโลก

“ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นก้าวแห่งความภาคภูมิใจของประเทศไทย ที่แสดงให้ทั่วโลกเห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของทีมกู้ภัยไทยในการช่วยเหลือประเทศที่ประสบภัยตามหลักของมนุษยธรรมสากล และทำให้ทีม USAR Thailand ก้าวสู่ความเป็นทีมค้นหาและกู้ภัยนานาชาติอย่างสมบูรณ์” อธิบดี ปภ. ย้ำ

ซึ่งนี่คือความสำเร็จที่เกินกว่าป้ายประกาศหรือเกียรติบัตร แต่คือความเชื่อมั่นที่ต่อจากนี้ไปประชาชนไทยและนานาประเทศจะมีต่อเรา ว่าทีมกู้ภัยไทยมีมาตรฐาน มีระบบ และมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ในการเข้าไปช่วยทุกชีวิตในยามวิกฤตสาธารณภัย\

#USARThailand #IEC #USAR

—————————