(13 พ.ย. 68) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมแสดงความยินดีผ่านระบบออนไลน์กับทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมืองประเทศไทย (USAR Thailand) ที่ผ่านการประเมินตามระบบของคณะที่ปรึกษาด้านการค้นหาและกู้ภัยระหว่างประเทศ (INSARAG External Classification: IEC)
“ยินดีด้วยนะคะทุกท่าน ยินดีด้วยจริง ๆ” รองผู้ว่าฯ ทวิดา ได้กล่าวแสดงความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งในความพยายามของทุกทีมที่ประกอบขึ้น และชื่นชมในความเป็นทีมเวิร์กที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จในการผ่านบททดสอบที่ยากลำบาก
สำหรับการก้าวสู่ขั้นต่อไป รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวว่า กรุงเทพมหานครยืนยันที่จะพัฒนาความสามารถของทีม USAR ต่อไป โดยตั้งใจให้ศูนย์ฝึกอบรมของ กทม. ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับทีม USAR Thailand เพื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับการฝึกซ้อมร่วมกัน รวมถึงการพัฒนาทักษะ จัดเตรียมอุปกรณ์ให้ครบถ้วน และการรักษามาตรฐาน เพื่อให้กรุงเทพฯ มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น และยกระดับศักยภาพการค้นหาและกู้ภัยในเมืองของประเทศไทยสู่มาตรฐานสากลต่อไป
ทีม USAR Thailand ได้ผนึกกำลัง 6 หน่วยงาน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมการแพทย์ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม บริษัท เอ็นพีซี เซฟตี้ แอนด์ เอ็นไวรอนเมนทอลเซอร์วิส จำกัด เข้ารับการประเมินชุดค้นหาและกู้ภัยในเมืองแห่งชาติตามระบบของคณะที่ปรึกษาด้านการค้นหาและกู้ภัยระหว่างประเทศ (INSARAG External Classification: IEC)
ซึ่งมีคณะผู้ประเมินจากต่างประเทศ 11 ประเทศ คณะพี่เลี้ยงจากประเทศออสเตรเลีย จำนวน 3 คน คณะผู้สังเกตการณ์จากต่างประเทศ คณะผู้แทนจากสหประชาชาติ เข้าร่วมประเมินและเข้ารับชมการประเมินฯ
โดยการประเมินดังกล่าว จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 14 พ.ย. 68 ณ สถาบันพัฒนาบุคลากรด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดปทุมธานี ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 16 ชัยนาท ศูนย์ฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน จังหวัดชัยนาท
โดยกระบวนการประเมินเป็นไปอย่างเข้มข้น มีการนำเสนอข้อมูล โครงสร้างทีม การตรวจอุปกรณ์ และการฝึกภาคสนามต่อเนื่อง 36 ชั่วโมงภายใต้สถานการณ์จำลองแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เพื่อทดสอบความสามารถของทีมให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
สำหรับการประเมินทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมืองครั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้ส่งทีมสนับสนุนภารกิจ ประกอบด้วย สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 40 คน แบ่งเป็น ผู้แทนในการสอบ 13 คน ผู้ควบคุมการฝึก (EXCON.) 7 คน ผู้แสดงบทบาทสมมุติ 16 คน ทีมโดรน 4 คน โดยมี นายภุชพงศ์ สัญญโชติ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 3 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รับตำแหน่งรองหัวทีม USAR THA-10 และสำนักอนามัย จำนวน 5 คน เป็นทีมสัตวแพทย์ ตรวจสุขภาพ K-9 ก่อนออกเดินทางไปภารกิจค้นหาและกู้ภัย
ทั้งนี้ รองผู้ว่าฯ ทวิดา ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมผ่านเฟซบุ๊ก Tavida Kamolvej ถึงการทดสอบที่ผ่านมาว่า ทีม USAR ประกอบด้วย 5 ภารกิจหลัก ได้แก่ 1. Management (การบริหารจัดการและอำนวยการปฏิบัติงาน) 2. Search (การค้นหาผู้ประสบภัย) 3. Rescue (การกู้ภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัย) 4. Medical (การปฐมพยาบาลและดูแลรักษาทางการแพทย์) และ 5. Logistics (การสนับสนุนด้านยุทธภัณฑ์และสาธารณูปโภค เช่น อาหาร น้ำ เครื่องมือ และการขนส่ง) โดยต้องทำให้ผ่านเช็กลิสต์ตามมาตรฐาน INSARAG ทั้งหมด 172 ข้อ
“ในเวลา 04.52 น. ของวันที่ 13 พ.ย. 68 ทีมเรามีปัญหาเรื่องเครื่องตัดคอนกรีตชำรุด ทำให้งานของเราล่าช้าไปประมาณ 217 นาที จนเจ้าหน้าที่ผู้ประเมินบอกว่าหากคุณไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ภายใน 06.00 น. (ก่อนฟ้าสาง) เราจะต้องตกเช็กลิสต์ไป 1 ข้อ และจะไม่ผ่านการสอบขั้นมาตรฐานได้ ซึ่งเราต้องทำภารกิจหลายอย่างในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ท้ายที่สุด สิ่งที่พวกเราตั้งใจก็สำเร็จ เราสามารถตัดคอนกรีตได้สำเร็จ 05.59 น. เก่งมาก” รองผู้ว่าฯ ทวิดา ระบุ
#USARThailand #IEC #USAR
—————————
