(13 พ.ย. 68) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงนโยบายการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล ระหว่างกรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข และสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เพื่อพัฒนาระบบบริการสุขภาพดิจิทัลให้สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงบริการสุขภาพระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ส่งต่อผู้ป่วยได้ต่อเนื่อง ประชาชนเข้าถึงการรักษาอย่างไร้รอยต่อ ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.จีราวรรณ บุญเพิ่ม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พญ.เลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง รองปลัดกรุงเทพมหานคร และนายโสภณ เอี่ยมศิริถาวร รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมแถลงนโยบายการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ และร่วมลงนามความร่วมมือในครั้งนี้

รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่เราร่วมมือกันรวมระบบข้อมูลให้เป็นประโยชน์กับประชาชนให้ได้มากที่สุดในเขตกรุงเทพมหานคร หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อสำเร็จในพื้นที่ กทม. แล้วจะสามารถขยายผลได้ ก่อนจะมาถึงวันนี้ ตลอดระยะเวลา 3 ปีครึ่งที่ผ่านมาเราพยายามเป็นอย่างยิ่งในการจัดทำระบบข้อมูลท่ามกลางปัญหาสุขภาพของคนกรุง การแก้ปัญหาในแต่ละเรื่องอาจจะไม่สามารถทำให้หายไปได้ในวันรุ่งขึ้นหรือทำให้หายไปได้ในทันที ดังนั้นวิธีการหนึ่งที่เราเข้าไปดู คือ ระบบข้อมูลสุขภาพของคนกรุงอยู่กระจายมากและด้วยองคาพยพของ กทม. มีความซับซ้อนมาก โรงพยาบาลใน กทม. มีหลายสังกัดทั้งรัฐและเอกชน ซึ่งแต่ละหน่วยก็เก็บข้อมูลของตัวเอง ทั้งนี้ ทรัพยากรของโรงพยาบาลรัฐใน กทม. มีประมาณ 13% เมื่อคิดจากทรัพยากรทั้งหมดในกรุงเทพฯ เพราะฉะนั้นการบริหารจัดการในการให้บริการประชาชนให้ได้มากที่สุดอยู่ที่หน่วยปฐมภูมิ คือ คลินิก หน่วยนวัตกรรม รวมถึงโรงพยาบาลเล็ก ๆ โรงพยาบาลของเอกชน หรือศูนย์บริการสาธารณสุขที่ กทม. เป็นผู้ดูแล ทั้งนี้ อัตราส่วนของจำนวนประชาชนที่มีอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นสูงกว่าป่วยเจ็บหนักสาหัส ปฐมภูมิจึงเป็นที่พึ่งและหัวใจของสาธารณสุขของกรุงเทพมหานครอย่างแท้จริง

รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวต่อไปว่า ข้อมูลสุขภาพนอกจากจะเป็นประโยชน์กับประชาชน ยังมีความสำคัญมากต่อแพทย์ และไม่ว่าเราจะต้องไปหาแพทย์ท่านไหนใน กทม. ข้อมูลจะเชื่อมกัน ปัจจุบันมี 1,531 สถานพยาบาล หน่วยพยาบาลปฐมภูมิ และโรงพยาบาล อยู่ในเครือข่ายของ กทม. ประมาณ 6 เดือนแล้ว เพื่อร่วมทดลองเรียกดูข้อมูลระหว่างกัน ทั้งนี้ ในโลกที่เป็นดิจิทัล เรื่องความปลอดภัยของระบบข้อมูลนั้น อยากให้มั่นใจว่าเราดูแลสุขภาพทางกายและทางใจของประชาชนอย่างไร เราดูแลความปลอดภัยของข้อมูลของประชาชนเช่นนั้น ดังนั้นความร่วมมือในครั้งนี้เราพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้คนกรุงได้รับการดูแลที่ดียิ่งขึ้น วันนี้ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เรามาถึงวันนี้จนได้ หวังว่าในอนาคตเราจะสามารถแชร์ทรัพยากร องค์ความรู้ที่ทำให้เราสามารถพัฒนาการแพทย์และสาธารณสุขของเมืองหลวงที่ซับซ้อน และเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือในเชิงลึกต่อไปกับทุกสถานพยาบาล ทุกหน่วย ทุกชุมชนที่ดูแลสุขภาพของคนเมือง

ดร.จีราวรรณ กล่าวว่า สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI หน่วยงานภายใต้กำกับกระทรวงดีอี จะเป็นหน่วยงานสนับสนุนการเชื่อมต่อประวัติการรักษาหน่วยบริการภายใต้กรุงเทพมหานครและกระทรวงสาธารณสุขให้สำเร็จ แพลตฟอร์ม Health Link และหมอพร้อม และพัฒนาระบบการส่งต่อ (e-Refer) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะถูกใช้ร่วมกับหมอพร้อมและ MOPH Refer โดยกลไกการเชื่อมโยงดังกล่าวดำเนินการภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัย ถูกต้องตามหลักการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) วันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงานในการวางรางฐานระบบสุขภาพดิจิทัลของประเทศ กระทรวงดีอี การพัฒนาแพลตฟอร์มและให้บริการด้านดิจิทัล ถือเป็นภารกิจหลักที่จะร่วมสนับสนุนให้หน่วยงานในประเทศ ได้ยกระดับความสามารถในการให้บริการประชาชนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล หวังว่าการดำเนินการในครั้งนี้จะนำไปสู่การขยายผลการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพและการใช้ประโยชน์จากข้อมูล เพื่อการบริการด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต

ด้านนายโสภณ กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้มุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานและคุณภาพระบบสุขภาพของประเทศโดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อสนับสนุนอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และปิดช่องว่างความแตกต่างของพื้นที่ ซึ่งเรามีภาพความสำเร็จมาแล้วจากการเชื่อมโยงข้อมูลและพัฒนาบริการในส่วนภูมิภาคทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ อาทิ MOPH refer ที่ปัจจุบันส่งใบส่งตัวอิเล็กทรอนิกส์ไปแล้วกว่า 1 ล้านใบ รวมถึงการใช้งานแพลตฟอร์มหมอพร้อม กว่า 26 ล้านคนทั่วประเทศ

ในวันนี้ การสร้างความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับกรุงเทพมหานคร ในฐานะของผู้กำกับดูแลข้อมูล โดยมี BDI ร่วมเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาแพลตฟอร์มนั้น นับว่าเป็นก้าวที่สำคัญยิ่งในการสร้างระบบบริการสุขภาพที่ “seamless” ไม่ว่าจะโรงพยาบาลในภูมิภาค โรงพยาบาลใน กทม. ศูนย์บริการสาธารณสุข หรือคลินิกที่ร่วมโครงการ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการและสาธิตแพลตฟอร์มบริการสุขภาพจากทั้ง 3 หน่วยงาน เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของระบบข้อมูลสุขภาพระดับประเทศ ที่จะเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนา “Smart Health City” อย่างยั่งยืน นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เพื่อพัฒนาระบบบริการ สุขภาพดิจิทัลแบบครบวงจร ที่มีมาตรฐานระดับสากล สนับสนุนให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพ ปลอดภัยและตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง

#กทม #สุขภาพดี