(6 พ.ย. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 11/2568 โดยมี นายณรงค์ เรืองศรี ปลัดกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า เขตพระนคร
สำนักอนามัย รายงานการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนกรุงเทพมหานคร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
กรุงเทพมหานครจะดำเนินโครงการ หมู่บ้าน/ชุมชนสีขาว ปลอดยาเสพติด ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย โดยปรับแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับกับบริบทของกรุงเทพมหานคร ซึ่งปลัดกรุงเทพมหานครได้มอบนโยบายให้ทุกสำนักงานเขตดำเนินการตามแผนและรายงานผลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลักเกณฑ์การประเมิน หมู่บ้าน/ชุมชนสีขาว ปลอดยาเสพติดกรุงเทพมหานคร คือ ไม่พบผู้เสพ และหรือผู้ค้าหรือ พบผู้เสพ และหรือผู้ค้า แล้วมีการดำเนินการครบทุกราย
สำหรับกรอบการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนกรุงเทพมหานคร ปีงบประมาณ 69 มีพื้นที่เป้าหมายในชุมชน กทม. จำนวน 2,003 ชุมชน โดยกำหนดแนวทางดำเนินการในพื้นที่ที่เข้มข้นแตกต่างกัน แบ่งออกเป็น ชุมชนเฝ้าระวัง (ชุมชนที่มีปัญหายาเสพติด) 250 ชุมชน 50 เขต ชุมชนทั่วไป ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ชุมชนเสริมภูมิคุ้มกัน 146 ชุมชน 35 เขต และชุมชนป้องกันเชิงรุก 1,607 ชุมชน 50 เขต โดยจะดำเนินการค้นหา Re X-Ray คัดกรองชุมชนจัดทำทะเบียนผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดตามมาตรการชุมชนเข้มแข็งและชุมชนสีขาว ดำเนินกฎหมายเด็ดขาดกับกลุ่มผู้ค้า ค้นหาและนำผู้เสพหรือผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดต่อไป
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า วานนี้ (5 พ.ย.) ได้เข้าร่วมการประชุมหารือข้อราชการสำหรับการติดตามผลดำเนินการตามนโยบายป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ร่วมกับนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี โดยรัฐบาลได้มอบนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน โดยใช้แนวคิดให้ชุมชนเป็นกลไกหลัก และนำโมเดลต้นแบบจากพื้นที่อื่นมาปรับใช้ในบริบทของ กทม. จึงขอให้ทางสำนักอนามัยพิจารณาคัดเลือกชุมชนจาก 250 ชุมชนเฝ้าระวัง เพื่อเป็นพื้นที่ต้นแบบในการนำร่องโมเดลดังกล่าว รวมถึงต้องทบทวนและบูรณาการหน่วยงาน ทรัพยากร และองคาพยพทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานด้านจิตเวช หรือศูนย์ฟื้นฟู เพื่อประเมินว่ายังมีส่วนใดที่ขาดแคลนและจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนจากส่วนกลางเพิ่มเติมหรือไม่ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสองสัปดาห์
#กทม
