(1 ต.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีมอบโล่เกียรติคุณผู้สูงอายุดีเด่นของสหพันธ์ชมรมผู้สูงอายุกรุงเทพมหานคร และมอบเกียรติบัตรผู้สูงอายุจิตอาสากรุงเทพมหานคร ในการจัดงานวันผู้สูงอายุ ประจำปี 2568 เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้สูงอายุ ผู้ซึ่งเป็นคลังปัญญา ประสบการณ์ ความรู้ และมีความสามารถ และเป็นพลังของสังคม อีกทั้งเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงศักยภาพ และคุณค่าของผู้สูงอายุ ที่มีคุณธรรม จริยธรรม มีความเสียสละ และการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่ครอบครัว ชุมชนและสังคม 

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีผู้สูงอายุกว่า 1,294,000 คนแล้ว สัดส่วนกระจายไปใน 50 เขต แต่ถ้าเป็นเขตชั้นใน เช่น สัมพันธวงศ์ ป้อมปราบศัตรูพ่าย สูงกว่า 26% เป็น Super aging แล้ว ผู้สูงอายุถือเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามาก ๆ ของกรุงเทพมหานคร เพราะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ต่าง ๆ ซึ่งสามารถมาแลกเปลี่ยนและสร้างประโยชน์กับสังคมได้อีกเยอะ สิ่งสำคัญกรุงเทพมหานครต้องดูแลใน 4 มิติ คือ ด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้สูงอายุมีชีวิตอยู่ในกรุงเทพมหานครได้อย่างมีความสุข ขอให้อย่าติดบ้าน ติดเตียง ให้มาติดเพื่อน ติดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเต้นรำ การเล่นดนตรี และกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งกรุงเทพมหานครพร้อมสนับสนุนผู้สูงอายุทุกท่าน และขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับโล่เกียรติคุณผู้สูงอายุดีเด่นของสหพันธ์ชมรมผู้สูงอายุกรุงเทพมหานคร และเกียรติบัตรผู้สูงอายุจิตอาสากรุงเทพมหานคร แสดงถึงการสูงวัยอย่างมีคุณภาพและมีพลัง เพื่อจะช่วยสร้างสังคมให้มีคุณภาพต่อไป

ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติ กำหนดให้ทุกวันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันผู้สูงอายุสากล ถือเป็นวันสำคัญของผู้สูงอายุทั่วโลก เพราะแต่ละแห่งทั่วโลกจะจัดงานเฉลิมฉลองให้กับผู้สูงอายุ เพื่อแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของผู้สูงอายุ ให้คนทั่วไปตระหนักว่าชั่วชีวิตที่ผ่านมาของผู้สูงอายุได้สร้างคุณประโยชน์ คุณงามความดีไว้มากมาย รวมทั้งสรรค์สร้างทุก ๆ สิ่งมาให้กับสังคมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กรุงเทพมหานครได้เข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีจำนวนผู้สูงอายุ 1,294,579 คน คิดเป็นร้อยละ 23.73 ของประชากรที่ขึ้นทะเบียนในกรุงเทพมหานคร (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2567) ผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยที่แข็งแรงมีสุขภาพดี (ประมาณร้อยละ 96.4) มีความสามารถและศักยภาพ มีคุณค่าและคุณประโยชน์ ต่อครอบครัว ชุมชนและสังคม สังคมสูงวัยที่จะมีความสุขได้อย่างยั่งยืน ต้องมาพร้อมกับสังคมที่เปิดรับคนสูงวัยมากขึ้น ให้คนสูงวัยได้แสดงความเป็นตัวเองได้มากยิ่งขึ้น สามารถพึ่งพาตัวเองได้ เป็นผู้สูงวัยอย่างมีพลัง (Active aging) การจัดงานวันผู้สูงอายุสากล ประจำปี พ.ศ. 2568 เป็นความร่วมมือกันระหว่าง สำนักอนามัย และสหพันธ์ชมรมผู้สูงอายุกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักพัฒนาสังคม สำนักการแพทย์ สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว และเครือข่ายผู้สูงอายุ ผู้ร่วมงานเป็นสมาชิกชมรมผู้สูงอายุของกรุงเทพมหานคร ประชาชนทั่วไป และผู้เกี่ยวข้อง จำนวนประมาณ 1,000 คน 

กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัย จัดงานวันผู้สูงอายุสากล เพื่อให้สมาชิกชมรมผู้สูงอายุในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้มีการรวมตัวพบปะ ร่วมแสดงศักยภาพ ความสามารถ เผยแพร่ผลงาน ผลิตภัณฑ์งานฝีมือ เกิดการสืบทอดและต่อยอดการพัฒนา รวมถึงประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้สังคมได้รับรู้ เห็นความสำคัญและคุณค่าของผู้สูงอายุ กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย เดินเพื่อสุขภาพของสหพันธ์ชมรมผู้สูงอายุกรุงเทพมหานครและเครือข่ายผู้สูงอายุ ณ บริเวณลานพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ มอบโล่เกียรติคุณผู้สูงอายุดีเด่นของสหพันธ์ฯ และเกียรติบัตรผู้สูงอายุจิตอาสากรุงเทพมหานคร เสวนากิจกรรมความรู้การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ บูทกิจกรรมสุขภาพและผลิตภัณฑ์ของชมรมผู้สูงอายุ บูทตรวจคัดกรองสุขภาพ การแสดงบนเวทีของสมาชิกชมรมผู้สูงอายุและจับรางวัลหางบัตรเดินเพื่อสุขภาพของสหพันธ์ฯ 

โอกาสนี้ นายวิพุธ ศรีวะอุไร ประธานสภากรุงเทพมหานคร นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางเกศี จันทราประภาวัฒน์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง รองปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักอนามัย สำนักพัฒนาสังคม สำนักการแพทย์ สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว สมาชิกสหพันธ์ชมรมผู้สูงอายุกรุงเทพมหานคร และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมงานวันผู้สูงอายุสากล ประจำปี พ.ศ. 2568 ณ อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง

     ———————————– (พัทธนันท์…สปส. รายงาน)