นายอิทธิพล อิงประสาร ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่สั่งให้รื้อถอนอาคารโรงแรมดิเอทัส บางกอก และอาคารเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ดิ เอทัส เรสซิเดนซ์ว่า สำนักงานเขตฯ ได้ดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด โดยใช้อำนาจตามมาตรา 40 มาตรา 41 มาตรา 42 และมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 โดยดำเนินการกับบริษัท ลาภประทาน จำกัด และบริษัท ทับทิมทร จำกัด (ผู้ร้องสอดทั้งสอง) โดยเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 68 สำนักงานเขตฯ ได้นำบริษัท ทำเลไทย ธรรมชาติ จำกัด (ผู้รับจ้าง) เข้าสำรวจพื้นที่ภายในอาคาร เพื่อกำหนดแนวกั้นรั้วเป็นมาตรการป้องกันโดยรอบ เนื่องจากอาคารที่จะรื้อถอนมีพื้นที่ติดกับอาคารที่ถูกต้องตามกฎหมายและทรัพย์สินโดยรอบของผู้ร้องสอดทั้งสอง ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบ หรือข้อพิพาทจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายได้ จึงจำเป็นต้องสำรวจและทำแนวกั้นรั้วเพื่อความปลอดภัย ปัจจุบันผู้รับจ้างได้เสนอแผนแนวรั้วมาตรการป้องกันดังกล่าวต่อสำนักงานเขตฯ เพื่อพิจารณาตรวจสอบแล้ว และสำนักงานเขตฯ จะแจ้งผลการตรวจสอบให้ผู้ร้องสอดทั้งสองทราบต่อไป

อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานยังคงมีปัญหาและอุปสรรค โดยเฉพาะอาคารที่จะรื้อถอนมีพื้นที่ติดกับอาคารสำนักงานของผู้ร้องสอด ซึ่งมีการสัญจรของรถยนต์เข้าออกเป็นประจำ ทำให้เกิดข้อจำกัดในการทำแนวกั้นรั้ว นอกจากนี้ ผู้ร้องสอดยังได้ยื่นคำร้องขอขยายเวลาตรวจสอบเอกสารทรัพย์สินเพิ่มเติม เนื่องจากมีเอกสารจำนวนมาก รวมทั้งขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการประกาศประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) เพิ่มเติม อีกทั้งยังมีการร้องเรียนว่า มีบุคคลภายนอกอ้างตนว่าเป็นผู้รับจ้างจากบริษัท ทำเลไทย ธรรมชาติ จำกัด เข้ามาบุกรุกพื้นที่ภายในอาคาร