เด้ง’42หน.เทศกิจ’ จี้ตื่นตัวทำงานใหม่
“ชัชชาติ” เตือน 30 ม.ค.-1 ก.พ. ฝุ่นพิษกระจายทั่วกรุงเทพฯ เหตุอากาศปิด-มวลอากาศเย็นจากจีนปกคลุมทั่วไทย จับตา 31 ม.ค. อ่วมสุด แต่โชคดี 1-3 ก.พ. อากาศยังเย็นเผยเปลี่ยนยุทธวิธีแก้ปัญหาทางเท้า ไม่ให้เจ้าหน้าที่อยู่ที่เดิมนาน จนรู้จักคุ้นเคยกับพ่อค้าแม่ค้าไม่กล้าจับ-ปรับ เลยแก้ลำเปลี่ยนหัวหน้าเทศกิจ 42 เขต หวังให้ตื่นตัวพื้นที่ใหม่ เล็งจัดระเบียบถนนสายใหม่อีก 9 สาย พร้อมเร่งเปลี่ยนหลอดไฟทั่วกรุงให้สว่างไสว เพื่อความปลอดภัย
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 28 ม.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพ มหานคร ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่า สถานการณ์ค่าฝุ่นละออง PM2.5 จะหนักขึ้นในวันที่ 31 ม.ค.นี้ กทม.ขอความร่วมมือเรื่องการทำงานที่บ้านเพื่อลดปริมาณมลพิษ แต่สิ่งที่กังวลคือเรื่อง การเผาชีวมวล ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด นอกจากเรื่องฝุ่นแล้ว ขณะนี้ กทม.กำลังเร่งจัดการเรื่องทางเท้า ปรับปรุงทั้งวิธีการดำเนินงานและเจ้าหน้าที่ ตลอด 3-4 เดือนที่ผ่านมา มีการวางแผนการทำงานและเปลี่ยนหัวหน้าเทศกิจไปแล้ว 42 เขต เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตื่นตัวในการทำงาน เมื่อพบเจอสถานการณ์และพื้นที่ใหม่ ๆ
นายชัชชาติ ระบุอีกว่า หากอยู่ในพื้นที่เดิมเป็นเวลานานอาจเกิดความเคยชิน เช่น ไม่ดำเนินการจับปรับกับคนในพื้นที่ที่คุ้นเคย ไม่ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา จากมาตรการปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ทำให้เห็นว่าทางเท้าในกรุงเทพมหานคร เป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้น เช่น ถนนสีลมและถนนสุขุมวิท ทั้งนี้ กทม.ไม่ต้องการไล่จับหาบเร่แผงลอย แค่ต้องการให้ย้ายไปอยู่ในที่ที่จัดเตรียมไว้ให้ เพื่อความเป็นระเบียบและคืนทางเท้าให้แก่สาธารณะ ปัจจุบัน กทม. กำลังกำหนดการจัดระเบียบถนนหลัก 9 สายเพิ่มเติม เช่น ลาดพร้าว พหลโยธิน เป็นต้น รวมถึงพื้นที่เศรษฐกิจด้านในซึ่งต้องดูยุทธศาสตร์ในภาพรวม อาทิ เยาวราช สำเพ็ง พาหุรัด คลองถม และโบ๊เบ๊ ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่
ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยต่อว่า นอกจากนี้ กทม. เริ่มเปลี่ยนหลอดไฟทั่วกรุงเทพ มหานคร เช่น ย่านสาทร-สุขุมวิท โดย จะทยอยติดตั้งตามจุดต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพ มหานครเพื่อความปลอดภัย ตามนโยบายกรุงเทพฯ ต้องสว่าง ส่วนโครงการรับมือ น้ำท่วม ยังดำเนินการต่อเพื่อเตรียมรับมือในเดือน พ.ค.ที่จะมาถึงนี้ ทุกอย่างคงดำเนินการตามแผน และยังมีอีกหลายโครงการที่ลงไปยังชุมชน ทั้งด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ซึ่งผู้บริหาร กทม.ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่
ขณะที่เฟซบุ๊กกรุงเทพมหานคร รายงานค่าฝุ่น PM2.5 ในช่วงเช้าวันนี้ ว่า กรุงเทพฯ ตรวจวัดค่าฝุ่นละอองได้ 28-62 มคก./ลบ.ม. มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับเมื่อวานในช่วงเวลาเดียวกัน โดยพบว่าเกินค่ามาตรฐาน (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) 14 พื้นที่ ส่วนวันที่ 30 ม.ค.-1 ก.พ.นี้ การระบายอากาศไม่ดี เนื่องจากเพดานอากาศต่ำ เกิดสภาวะอากาศปิด อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเป็นช่วงที่บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน แผ่ปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง PM2.5 มีแนวโน้มค่อนข้างลดลงถึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสลับกันในช่วงนี้ และคาดอากาศจะกลับมาดีในวันที่ 2 ก.พ. 66 พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ควรเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่นละออง เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด โดยพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และกรุงธนใต้ และวันนี้กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียสช่วงวันที่ 1-3 ก.พ.นี้.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 29 ม.ค. 2566