(27 มิ.ย. 68) เวลา 13.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตคลองสามวา ประกอบด้วย
พัฒนาสวน 15 นาที สวนหทัยพฤกษ์ ซอยหทัยราษฎร์ 37 พื้นที่ 6 ไร่ 1 งาน 3.2 ตารางวา ซึ่งเขตฯ ได้ปรับปรุงพื้นที่สาธารณะท้ายซอยหทัยราษฎร์ จากแปลงผักสวนครัวเศรษฐกิจพอเพียง พัฒนาเป็นสวน 15 นาที แห่งที่ 8 สวนหทัยพฤกษ์ โดยร่วมกับคณะขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาเขตคลองสามวา ตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว สถานที่พักผ่อน ออกกำลังกาย ประชาชนสามารถเข้าถึงง่าย สะดวก รวดเร็ว เดินถึงภายในเวลา 15 นาที หรือระยะทาง 800 เมตร เน้นการพัฒนาพื้นที่เดิมควบคู่กับการเพิ่มพื้นที่ใหม่ ภายใต้ความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน โดยปรับสภาพพื้นที่ ออกแบบสวน จัดทำทางเดินวิ่ง ลานกิจกรรม ติดตั้งไฟโซล่าเซลล์ จำนวน 12 ต้น ปลูกไม้ยืนต้น ในโอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเขตฯ ได้ร่วมกันตัดริบบิ้นเปิดป้ายชื่อสวนหทัยพฤกษ์ เพื่อเปิดให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการภายในสวนอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งร่วมปล่อยพันธุ์ปลาตะเพียน ปลูกต้นหางนกยูง เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างกำแพงกรองฝุ่น เพิ่มความร่มรื่นและสวยงามให้กับสวนดังกล่าว
จากนั้นสำรวจสวน 15 นาที บริเวณพื้นที่ทำการเกษตร บ้านแบนชะโด ซอยแบนชะโด 5 แยก 2 ถนนแบนชะโด ซึ่งเจ้าของที่ดินมีความประสงค์จะให้เขตฯ ใช้ประโยชน์จากที่ดินบนพื้นที่ 10 ไร่ 3 งาน 84 ตารางวา เป็นระยะเวลา 7 ปี โดยเขตฯ มีแนวคิดจัดทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางการเกษตร ตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกกล้วยหลากหลายสายพันธุ์ แปลงพืชผักสมุนไพร เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตรแก่ประชาชนในพื้นที่ และนักเรียนโรงเรียนบ้านแบนชะโด ปัจจุบันเขตฯ มีสวน 15 นาที จำนวน 11 แห่ง ได้แก่ 1.สวนสามวาพนานุรักษ์ พื้นที่ 2 ไร่ 2.สวนสามวาประชาสุขสันต์ ถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 82 ใกล้หมู่บ้านเนเบอร์โฮม พื้นที่ 2 ไร่ 2 งาน 26 ตารางวา 3.สวนเจริญสุข สุขสำราญพัฒนา ริมคลองลำแบน ชุมชนสุขสำราญพัฒนา ซอยหทัยราษฎร์ 41 พื้นที่ 1 ไร่ 4.สวนราษฎร์ร่วมใจ ถนนราษฎร์ร่วมใจ ซอยประชาร่วมใจ 62 ถนนราษฎร์ร่วมใจ (แยกบาแล) พื้นที่ 3 ไร่ 5.สวนสามวาพระยาสุเรนทร์ บริเวณวัดพระยาสุเรนทร์ พื้นที่ 1 ไร่ 6.สวนบึงแบนตาโพ ซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 14 ถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง พื้นที่ 9 ไร่ 3 งาน 45 ตารางวา 7.สวนไมตรีจิต (พื้นที่ว่างไหล่ทาง) ถนนไมตรีจิต พื้นที่ 2 ไร่ 3 งาน 8.สวนหทัยพฤกษ์ ซอยหทัยราษฎร์ 37 พื้นที่ 6 ไร่ 1 งาน 3.2 ตารางวา 9.สวนหมู่บ้าน K.C. รามอินทรา 5 พื้นที่ 3 งาน 4 ตารางวา อยู่ระหว่างประสานเจ้าของที่ดิน 10.สวนหมู่บ้าน K.C. Garden Home พื้นที่ 1 ไร่ อยู่ระหว่างดำเนินการ 11.สวนสุเหร่าคลองหนึ่ง พื้นที่ 1 ไร่ 60 ตารางวา อยู่ระหว่างการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นสาธารณะประโยชน์ นอกจากนี้ เขตฯ ยังมีสวนนิมิตใหม่ 36 ริมคลองสามตะวันออก (ตรงข้ามวัดสุทธิสะอาด) ซอยนิมิตใหม่ 36 พื้นที่ 65 ไร่ โดยยกระดับเป็นสวนป่ากรุงเทพฯ ขนาดใหญ่ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ พิจารณาถึงความเหมาะสมของพื้นที่ในการจัดทำสวน 15 นาทีให้ครบทั้ง 10 แห่ง ตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งเขตฯ ยังมีพื้นที่ว่างสามารถจัดทำสวน 15 นาทีเพิ่มเติมได้อีก โดยออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในสวนให้ตรงตามความต้องการของประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ เพื่อให้การจัดทำสวนเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง
เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ ชุมชนร่มเย็น 5 พัฒนา ซอยพระยาสุเรนทร์ 9 พื้นที่ 127 ไร่ มีประชากร 1,464 คน บ้านเรือน 385 หลังคาเรือน เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะตั้งแต่ปี 2562 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ ส่งเสริมให้สมาชิกในชุมชนทุกครัวเรือนคัดแยกขยะเศษอาหาร โดยนำขยะมาใส่ในถังหมัก OK และทำปุ๋ยหมักไม่กลับกอง บริเวณที่ว่างด้านหลังชุมชน เขตฯ จัดเก็บทุกวันพฤหัสบดีและวันอาทิตย์ สมาชิกในกลุ่มอพาร์ทเมนท์ 2 แห่ง และสมาชิกในซอย 9 นำขยะเศษอาหารมาทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์และเลี้ยงสัตว์ 2.ขยะรีไซเคิล ส่งเสริมสมาชิกทุกครัวเรือนคัดแยกขยะรีไซเคิลจากครัวเรือนของตนเอง เช่น ขวดแก้ว พลาสติก กระดาษ โลหะ นำไปขาย เพื่อเป็นรายได้เสริมของแต่ละครัวเรือน นอกจากนี้จะนำสิ่งของเหลือใช้กลับมาใช้ประโยชน์ เช่น ยางรถยนต์เก่านำมาทาสีประดับตกแต่งสวนสาธารณะเอนกประสงค์ และสนามเด็กเล่นในชุมชน 3.ขยะทั่วไป ส่งเสริมสมาชิกทุกครัวเรือนคัดแยกขยะทั่วไปจากครัวเรือนของตนเอง ใส่ถุงมัดปากให้เรียบร้อยนำมาวางไว้บริเวณหน้าบ้านของตนเองทุกวันพฤหัสบดีและวันอาทิตย์ รอเขตฯ จัดเก็บ นอกจากนี้จะนำสิ่งของเหลือใช้กลับมาใช้ประโยชน์ เช่น กล่องโฟมที่ไม่ใช้แล้ว ชุมชนนำไปทำเป็นกระถางสำหรับปลูกพืชผักสวนครัว แทนกระถางพลาสติก 4.ขยะอันตราย จัดทำจุดทิ้งขยะอันตรายไว้บริเวณที่ทำการชุมชน เพื่อให้สมาชิกในชุมชนนำขยะอันตรายมาทิ้ง รอเขตฯ จัดเก็บ สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 1,540 กิโลกรัม/วัน หลังคัดแยก 600 กิโลกรัม/วัน ขยะรีไซเคิลหลังคัดแยก 540 กิโลกรัม/วัน ขยะอินทรีย์หลังคัดแยก 390 กิโลกรัม/วัน ขยะอันตรายหลังคัดแยก 5 กิโลกรัม/เดือน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ให้คำแนะนำในการคัดแยกขยะประเภทต่างๆ โดยเฉพาะขยะอินทรีย์ออกจากขยะทั่วไป เพื่อให้การจัดเก็บขยะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งปริมาณขยะที่คัดแยกจะมีผลต่ออัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยฉบับใหม่ โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 68
ติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ตรวจวัดค่าควันดำรถรับจ้างไม่ประจำทาง รับส่งนักท่องเที่ยวซาฟารีเวิลด์ บริเวณลานจอดรถซาฟารีเวิลด์ กรุงเทพฯ โดยเขตฯ ได้ใช้เครื่องตรวจวัดควันดำด้วยระบบความทึบแสง จากนั้นเร่งเครื่องยนต์อย่างรวดเร็วจนสุดคันเร่ง และคงไว้ที่ความเร็วสูงสุดไม่น้อยกว่า 2 วินาที ทำการตรวจวัดค่าควันดำ 2 ครั้ง ใช้ค่าสูงสุดที่วัดได้เป็นเกณฑ์ตัดสิน สำหรับค่ามาตรฐานควันดำตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าควันดำของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด พ.ศ. 2564 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 13 เมษายน 2565 กำหนดค่ามาตรฐานควันดำตรวจด้วยเครื่องมือวัดระบบความทึบแสงต้องไม่เกิน 30% และตรวจด้วยเครื่องมือวัดระบบกระดาษกรองต้องไม่เกิน 40% ส่วนค่ามาตรฐานเสียง ระดับเสียงปลายท่อไอเสียรถยนต์ต้องไม่เกิน 100 เดซิเบล ซึ่งบริษัทฯ ได้ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันฝุ่น PM2.5 อย่างเคร่งครัด ตรวจสภาพรถเป็นประจำทุกปี รวมถึงตรวจวัดค่าควันดำตามรอบที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน นอกจากนี้เขตฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการตรวจสอบและควบคุมสถานประกอบการที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 ตามมาตรการควบคุมมลพิษทางอากาศและมาตรการด้านความปลอดภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ประเภทแพลนท์ปูน 3 แห่ง ประเภทเคาะ ปะผุ พ่นสี 28 แห่ง ประเภทเลื่อย ตัดหิน 4 แห่ง ประเภทหม้อไอน้ำ (น้ำมันเตา) 1 แห่ง พร้อมทั้งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 กำชับสถานประกอบการในพื้นที่ให้ปฏิบัติตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมค่าฝุ่น PM2.5 ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อป้องกันมลพิษทางอากาศและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
พร้อมกันนี้ได้สอบถามถึงการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า ซึ่งเดิมเขตฯ มีพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน จำนวน 1 จุด บริเวณหน้าโรงเรียนวัดคู้บอน ผู้ค้า 10 ราย ต่อมาเขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้าดังกล่าว เมื่อเดือนมีนาคม 2567 นอกจากนี้ เขตฯ ได้จัดทำ Hawker Center บริเวณลานโดมวัดพระยาสุเรนทร์ รองรับผู้ค้าได้ 50 ราย มีผู้ค้า 7 ราย
ในการนี้มี นายพินิจ ค่ายสงคราม ผู้ช่วยปลัดกรุงเทพมหานคร นางธัญนภัส มณีศรี ผู้อำนวยการเขตคลองสามวา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตคลองสามวา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล
#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี #เศรษฐกิจดี #บ้านนี้ไม่เทรวม #แยกขยะจ่ายน้อยกว่า #แยก20ไม่แยก60 #BKKWASTEPAY
—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)
