(25 มิ.ย. 68) เวลา 13.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตวัฒนา ประกอบด้วย
เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ นิติบุคคลอาคารชุดโนเบิล สเตท 39 (Noble State 39) ซอยสุขุมวิท 39 พื้นที่ 1 ไร่ 3 งาน 56 ตารางวา มีประชากร 220 คน เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะตั้งแต่ปี 2568 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ คัดแยกขยะอินทรีย์ บริเวณจุดรวมด้านหลังอาคาร 2.ขยะรีไซเคิล คัดแยกขยะรีไซเคิล บริเวณจุดรวมด้านหลังอาคาร และตามชั้นต่าง ๆ ในอาคาร 3.ขยะทั่วไป คัดแยกขยะทั่วไป บริเวณจุดรวมด้านหลังอาคาร และตามชั้นต่าง ๆ ในอาคาร 4.ขยะอันตราย คัดแยกขยะอันตราย บริเวณจุดรวมด้านหลังอาคาร สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 600 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 400 กิโลกรัม/เดือน ขยะรีไซเคิลก่อนคัดแยก 300 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 200 กิโลกรัม/เดือน ขยะอินทรีย์ก่อนและหลังคัดแยก 100 กิโลกรัม/เดือน ขยะอันตรายก่อนคัดแยก 20 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 10 กิโลกรัม/เดือน ขยะติดเชื้อก่อนและหลังคัดแยก 5 กิโลกรัม/เดือน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ให้คำแนะนำในการคัดแยกขยะประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะขยะอินทรีย์ เศษผัก เศษอาหาร รวมถึงการคัดแยกขยะรีไซเคิล นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ นับว่าเป็นเรื่องดีที่ทางนิติบุคคลให้ความสำคัญในการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี ขอให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์แก่ผู้พักอาศัยในอาคารอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การคัดแยกขยะ การนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ และการจัดเก็บขยะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งปริมาณขยะที่คัดแยกจะมีผลต่ออัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยฉบับใหม่ โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 68
พัฒนาสวน 15 นาที สวนชุมชนพิบูลเวศม์ ซอยปรีดีพนมยงค์ 13 ถนนสุขุมวิท 71 ซึ่งเขตฯ ได้พัฒนาพื้นที่ด้านข้างบ้านหนังสือชุมชนหมู่บ้านพิบูลเวศม์ จัดทำเป็นสวน 15 นาที Pocket Park ทาสีพื้นลานกิจกรรม สนามเด็กเล่น ตั้งวางม้านั่ง ติดตั้งโคมไฟส่องสว่าง ปลูกไม้ดอกไม้ประดับเพิ่มเติม รวมถึงอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นอยู่เดิมภายในสวน ในโอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเขตฯ ได้ร่วมกันปลูกต้นลำดวน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างกำแพงกรองฝุ่น เพิ่มความร่มรื่นและสวยงามให้กับสวนดังกล่าว ปัจจุบันเขตฯ มีสวน 15 นาที จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ 1.สวนริมคลองเป้ง พื้นที่ 870 ตารางเมตร 2.Pocket Park 39 ปลายซอยสุขุมวิท 39 พื้นที่ 200 ตารางเมตร 3.Vadhana Pocket Park ทองหล่อ 10 พื้นที่ 200 ตารางเมตร 4.สวนหย่อมหลังเขตวัฒนา พื้นที่ 40 ตารางเมตร 5.สวนสามเก้า ปลายซอยสุขุมวิท 39 ริมคลองแสนแสบ พื้นที่ 365 ตารางเมตร 6.สวนหย่อมพานิชอนันต์ (แห่งที่ 2) ซอยปรีดีพนมยงค์ 42 พื้นที่ 1,984 ตารางเมตร 7.สวนทองหล่อ 9 พื้นที่ 321 ตารางเมตร 8.สวนชุมชนพิบูลเวศม์ ซอยปรีดีพนมยงค์ 13 พื้นที่ 450 ตารางเมตร อยู่ระหว่างปรับสภาพพื้นที่ 9.สวนปรีดีพนมยงค์ 45 พื้นที่ 185 ตารางเมตร ดำเนินการแล้ว 60% 10.สวนริมคลองศาลาลอย ซอยปรีดีพนมยงค์ 14 แยก 16 พื้นที่ 360 ตารางเมตร อยู่ระหว่างออกแบบสวน 11.สวน 39 Pocket Park พื้นที่ว่างปลายซอยสุขุมวิท 39 พื้นที่ 200 ตารางเมตร ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ พิจารณาถึงความเหมาะสมในการจัดทำสวน 15 นาที ให้ครบทั้ง 10 แห่ง ตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งเขตฯ ยังมีพื้นที่ว่างสามารถจัดทำสวนเพิ่มเติมได้อีก โดยออกแบบพื้นที่ภายในสวนให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้การจัดทำสวน 15 นาที เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง
ตรวจมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 โครงการ Niche Pride Ekkamai (นิช ไพรด์ เอกมัย) ระหว่างซอยเอกมัย 26-28 ถนนสุขุมวิท 63 (เอกมัย) ซึ่งเป็นการก่อสร้างอาคารพักอาศัย ความสูง 39 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามวิธีและเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตในการก่อสร้างตามกฎกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2526) และแก้ไขเพิ่มเติมตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 67 (พ.ศ. 2563) และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เน้นย้ำผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันฝุ่น PM2.5 อย่างเคร่งครัด ตรวจสอบประสิทธิภาพของเครื่องฉีดพ่นละอองน้ำ และเปิดในช่วงการปฏิบัติงานตลอดเวลา ล้างทำความสะอาดพื้นที่ภายในโครงการ รวมถึงพื้นทางเท้าด้านหน้าโครงการ ล้างทำความสะอาดล้อรถบรรทุกและรถโม่ปูนด้านหน้าทางเข้า-ออกโครงการ และฉีดล้างล้อรถบรรทุกและรถโม่ปูนทุกครั้งก่อนออกจากโครงการ ติดตั้งเครื่องวัดค่าฝุ่น PM2.5 และจอแสดงผลด้านหน้าโครงการ ตรวจวัดค่าควันดำรถบรรทุกและรถโม่ปูนให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามรอบที่กำหนด นอกจากนี้ เขตฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการตรวจสอบและควบคุมสถานประกอบการที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ อาทิ ประเภทสถานประกอบการ/โรงงาน ประเภทสถานที่ก่อสร้าง ประเภทแพลนท์ปูน ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 ควบคุมไม่ให้ปล่อยมลพิษในอากาศเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด เพื่อลดมลพิษทางอากาศและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ตรวจการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า บริเวณซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย 30) ผู้ค้า 29 ราย ซึ่งเป็นจุดที่เขตฯ จะพิจารณาให้เป็นพื้นที่ทำการค้า ขณะนี้อยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นจากคณะกรรมการฯ ปัจจุบันเขตฯ มีพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน จำนวน 6 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 86 ราย ดังนี้ 1.ซอยสุขุมวิท 1 ผู้ค้า 5 ราย 2.ซอยสุขุมวิท 21 (ฝั่งขาออก) ผู้ค้า 10 ราย 3.ซอยสุขุมวิท 21 (ฝั่งขาเข้า) ผู้ค้า 5 ราย 4.ซอยสุขุมวิท 31 ผู้ค้า 14 ราย 5.ซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย 30) ผู้ค้า 29 ราย 6.ถนนสุขุมวิท (หน้าวัดธาตุทอง) ผู้ค้า 11 ราย ซึ่งในปี 2568 เขตฯ จะพิจารณายกเลิกพื้นที่ทำการค้า 5 จุด รวมผู้ค้า 45 ราย ได้แก่ ดังนี้ 1.ซอยสุขุมวิท 1 ผู้ค้า 5 ราย 2.ซอยสุขุมวิท 21 (ฝั่งขาออก) ผู้ค้า 10 ราย 3.ซอยสุขุมวิท 21 (ฝั่งขาเข้า) ผู้ค้า 5 ราย 4.ซอยสุขุมวิท 31 ผู้ค้า 14 ราย 5.ถนนสุขุมวิท (หน้าวัดธาตุทอง) ผู้ค้า 11 ราย กำหนดพิจารณายกเลิกในเดือนกรกฎาคม 2568 โดยเขตฯ ได้เชิญผู้ค้ามาประชุมสร้างความเข้าใจในการจัดระเบียบพื้นที่ จัดเตรียมพื้นที่ทำการค้าใกล้เคียงไว้รองรับ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้เขตฯ จัดระเบียบพื้นที่ทำการค้าให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขทำการค้าปี 67 เพื่อความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่
ในการนี้มี คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตวัฒนา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล
#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี #เศรษฐกิจดี #บ้านนี้ไม่เทรวม #แยกขยะจ่ายน้อยกว่า #แยก20ไม่แยก60 #BKKWASTEPAY
—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)
