(28 พ.ค. 68) เวลา 13.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตภาษีเจริญ ประกอบด้วย

พัฒนาสวน 15 นาที 50 ปี มหาวิทยาลัยสยาม ภาษีเจริญ ซึ่งมหาวิทยาลัยสยามได้ปรับปรุงภูมิทัศน์สวนเก่าที่เป็นร่องสวนเดิม จัดทำเป็นสถานที่พักผ่อน และทำกิจกรรมต่าง ๆ ปลูกต้นไม้เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพิ่มความร่มรื่นและสวยงาม โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาใช้บริการนั่งเล่นพักผ่อน เดินวิ่งออกกำลังกาย ดำเนินการออกแบบและก่อสร้างโดยสวนนงนุชพัทยา ปัจจุบันเขตฯ มีสวน 15 นาที จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ 1.สวนแห่งรอยยิ้มและพื้นที่สุขภาวะ ชุมชนเลิศสุขสม บริเวณเกาะกลางถนนพุทธมณฑลสาย 1 พื้นที่ 100 ตารางวา 2.สวน 15 นาที บริเวณเกาะกลางถนนพุทธมณฑลสาย 1 จุดกลับรถใต้สะพานข้ามทางแยกถนนบางแวก พื้นที่ 300 ตารางวา 3.สวนป่าถนนศาลธนบุรี พื้นที่ 480 ตารางวา บริเวณหน้าหมู่บ้านกิจเจริญ ซอยศาลธนบุรี 29 4.สวนวัดกำแพงบางแวก ซอยบางแวก 32 พื้นที่ 140 ตารางวา 5.สวนวัดประดู่บางจาก ซอยราชพฤกษ์ 1 พื้นที่ 300 ตารางวา 6.สวนวัดปากน้ำภาษีเจริญ (สวนกาญจนาภิเษก) พื้นที่ 1 ไร่ 60 ตารางวา 7.สวน 15 นาที 50 ปี มหาวิทยาลัยสยาม ภาษีเจริญ พื้นที่ 5 ไร่ 8.สวนต้นหูกระจง พื้นที่ 382 ตารางวา บริเวณเกาะกลางถนนพุทธมณฑลสาย 1 ติดกับคลองบางจาก 9.สวนสุขภาวะแห่งการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยสยาม พื้นที่ 4 งาน 165 ตารางวา 10.สวนชุมชนราชมนตรีร่วมใจ พื้นที่ 3 ไร่ โดยในพื้นที่เขตฯ มีสวน 15 นาทีตามโครงการ Pocket Park 72 แห่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ 1.สวนแห่งรอยยิ้มและพื้นที่สุขภาวะ ชุมชนเลิศสุขสม 2.สวนวัดประดู่บางจาก ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ พิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้พื้นที่เพื่อจัดทำสวน 15 นาที ให้ครบทั้ง 10 แห่ง ตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในสวนให้สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ในการจัดทำสวน 15 นาที โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับในการเข้ามาใช้บริการหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างแท้จริง

เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ ศูนย์สรรพสินค้าซีคอนบางแค พื้นที่ 300,000 ตารางเมตร ผู้มาใช้บริการ 45,000 คน ร้านค้า 350 ร้าน เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะ ตั้งแต่ปี 2565 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ ประชาสัมพันธ์การคัดแยกขยะเศษอาหาร ผัก ผลไม้ เศษขนมปัง ให้กับร้านค้าภายในศูนย์การค้า แจกอุปกรณ์ ถังสีขนาด 10.5 ลิตร ติดสติกเกอร์ซีคอนไม่เทรวม ตะแกรงกรองน้ำ ให้กับร้านค้า ประสานเกษตรกรบ่อปลาเข้ามารับขยะอินทรีย์ จัดกิจกรรม แลก แยก แต้มให้กับทางร้านค้าเข้าร่วม โดยตรวจเศษอาหาร ไม่มีพลาสติกปะปน นับ 1 วัน ต่อ 1 แต้ม และสะสมได้คะแนนแลกของรางวัลตามแต้มที่ได้ 2.ขยะรีไซเคิล ประชาสัมพันธ์การคัดแยกขยะรีไซเคิล เช่น ขวด แก้ว กล่องกระดาษ แกลลอน กระป๋อง ถุงพลาสติก ให้ความรู้ว่าเป็นพลาสติกประเภทไหนที่นำไปรีไซเคิลได้ ก่อนทิ้งทางศูนย์การค้าจะมีตราชั่ง ชั่งเก็บน้ำหนัก และ DATA เพื่อเป็นข้อมูลว่าแต่ละร้านค้า มีขยะประเภทอะไรบ้าง ด้วยวิธีการสร้างแพลตฟอร์ม QR CODE 3.ขยะทั่วไป ประชาสัมพันธ์การคัดแยกขยะทั่วไป (กำพร้า) ที่ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้แล้ว มีลักษณะที่ย่อยสลายยากและไม่คุ้มค่าสำหรับการนํากลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เช่น ถุงพลาสติกใส่ขนม ถุงบรรจุผงซักฟอก ซองบะหมี่กึ่งสําเร็จรูป ถุงพลาสติกเปื้อน โฟมเปื้อน ทางศูนย์การค้าตั้งถังจิงโจ้เหลืองประจำจุดที่บ่อขยะ ก่อนทิ้งทางศูนย์การค้าจะมีตราชั่ง ชั่งเก็บน้ำหนัก และ DATA เพื่อเป็นข้อมูลว่าแต่ละร้านค้า มีขยะประเภทอะไรบ้าง ด้วยวิธีการสร้างแพลตฟอร์ม QR CODE ศูนย์การค้าจะมีป้ายประเภทของขยะและตัวอย่างของประเภทขยะอยู่ประจำจุด เพื่อความชัดเจนในการทิ้งขยะของร้านค้า 4.ขยะอันตราย ประชาสัมพันธ์การคัดแยกขยะอันตราย เช่น หลอดไฟเก่า ถ่านไฟฉาย กระป๋องสเปรย์ ทางศูนย์การค้าจะมีถังขยะสีแดงตั้งประจำจุดที่บ่อขยะ สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 7,000-8,000 กิโลกรัม/วัน หลังคัดแยก 3,000-4,000 กิโลกรัม/วัน ขยะรีไซเคิลหลังคัดแยก 100-200 กิโลกรัม/วัน ขยะอินทรีย์หลังคัดแยก เศษอาหาร 1,000-2,000 กิโลกรัม/วัน ผัก 100-200 กิโลกรัม/วัน ขนมปัง 30-50 กิโลกรัม/วัน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้คำแนะนำในการคัดแยกขยะประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะร้านค้าที่ยังสามารถคัดแยกขยะประเภทอื่น ๆ ออกจากขยะทั่วไปได้อีก รวมถึงขยะกำพร้าที่ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้แล้ว ควรแยกเศษอาหารและถุงพลาสติกปนเปื้อนออกจากกัน พร้อมทั้งให้เขตฯ ประสานกับศูนย์การค้าสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ร้านค้าในการคัดแยกขยะ เพื่อให้การจัดเก็บมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จะทำให้ปริมาณขยะโดยรวมลดลง ซึ่งปริมาณขยะที่คัดแยกจะมีผลต่ออัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยฉบับใหม่

ตรวจการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า บริเวณหน้าบ้านพักคนชราบางแค ถนนเพชรเกษม ปัจจุบันเขตฯ มีพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน จำนวน 5 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 123 ราย ดังนี้ 1.ซอยเพชรเกษม 42 ผู้ค้า 16 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-22.00 น. 2.ซอยเพชรเกษม 48 ผู้ค้า 18 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 08.00-20.00 น. 3.ซอยเพชรเกษม 33 ผู้ค้า 21 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-24.00 น. 4.หน้าบ้านพักคนชราบางแค ถนนเพชรเกษม ผู้ค้า 49 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-24.00 น. 5.ซอยเพชรเกษม 62 (ซอยวงศ์ดอกไม้) ผู้ค้า 19 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-23.00 น. ซึ่งในปี 2567 เขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้า จำนวน 8 จุด รวมผู้ค้า 105 ราย ได้แก่ 1.ซอยเพชรเกษม 20 ผู้ค้า 31 ราย 2.ซอยเพชรเกษม 36 ผู้ค้า 32 ราย 3.หน้าโรงพยาบาลพญาไท 3 ผู้ค้า 4 ราย 4.ซอยเพชรเกษม 39 ผู้ค้า 7 ราย 5.ซอยเพชรเกษม 54 ผู้ค้า 9 ราย 6.ถนนพุทธมณฑลสาย 1 (ฝั่งซ้าย) ผู้ค้า 4 ราย 7.ถนนพุทธมณฑลสาย 1 (ฝั่งขวา) ผู้ค้า 6 ราย 8.หน้าวัดนาคปรก ซอยเทอดไท 49 ถนนเทอดไท ผู้ค้า 12 ราย ต่อมาในปี 2568 เขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้า จำนวน 2 จุด รวมผู้ค้า 12 ราย ได้แก่ 1.ซอยเพชรเกษม 28 (ฝั่งซ้าย) ผู้ค้า 7 ราย 2.ซอยเพชรเกษม 28 (ฝั่งขวา) ผู้ค้า 5 ราย ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ จัดระเบียบพื้นที่ทำการค้าอย่างต่อเนื่อง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขทำการค้าปี 67 เชิญผู้ค้ามาประชุมสร้างความเข้าใจในหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ในการตั้งวางแผงค้า กำหนดขนาดขอบเขตของแผงค้า เพื่อไม่ให้รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ทางเท้า ขอความร่วมมือให้จัดเก็บอุปกรณ์ทำการค้าและทำความสะอาดพื้นที่หลังเลิกทำการค้าในแต่ละวัน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่

ตรวจสอบพื้นที่รกร้างและการลักลอบทิ้งขยะ บริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 1 ซอย 7 พื้นที่ 63 ตารางวา ที่ผ่านมาเขตฯ ได้ดำเนินการล้อมรั้วให้มิดชิด และติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ห้ามทิ้งขยะ พร้อมทั้งสำรวจการใช้ประโยชน์จากที่ดิน หากไม่มีการใช้ประโยชน์หรือปล่อยให้รกร้างว่างเปล่าให้จัดเก็บภาษีตามอัตราที่กำหนด จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจออกตรวจพื้นที่เป็นประจำ เพื่อป้องกันการลักลอบนำขยะชิ้นใหญ่หรือเศษวัสดุจากสิ่งปลูกสร้างมาทิ้งในพื้นที่ดังกล่าว

ติดตามการใช้จ่ายงบประมาณโครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนพุทธมณฑลสาย 1 บริเวณจุดก่อสร้างหน้าร้านทอเรสวิว ซึ่งสำนักการโยธาได้ดำเนินโครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนพุทธมณฑลสาย 1 จากถนนเพชรเกษม ถึงถนนพรานนก-ถนนพุทธมณฑลสาย 4 เริ่มสัญญาวันที่ 1 มิถุนายน 2567 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 24 สิงหาคม 2568 ระยะเวลา 450 วัน โดยปรับปรุงขยายถนน ค.ส.ล. จาก 4 ช่องจราจร เป็น 6 ช่องจราจร ระยะทาง 5 กิโลเมตร พร้อมทั้งก่อสร้างทางเท้า ระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง และเครื่องหมายจราจร สำหรับการก่อสร้างแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งถนน จำนวน 7 ช่วง รวมถึงขยายสะพานข้ามคลอง ได้แก่ คลองบางจาก คลองบางขี้เก้ง คลองบางด้วน คลองบางแวก คลองขี้หมูไหล คลองบางเชือกหนัง และคลองบางน้อย ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ ประสานสำนักการโยธา ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ใช้เส้นทางในระหว่างการก่อสร้าง นอกจากนี้ให้สำนักการโยธากำชับผู้รับจ้างให้คำนึงถึงความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนในการเดินทางสัญจร ติดตั้งป้ายแจ้งเตือน ป้ายไฟสัญญาณ ป้ายจราจร ตั้งวางแบริเออร์ในจุดที่มีการก่อสร้าง จุดที่ขุดวางท่อระบายน้ำ เพิ่มระบบไฟฟ้าส่องสว่างให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะไกล เพิ่มจำนวนคนงานในแต่ละช่วงให้มากขึ้น ซึ่งการก่อสร้างในแต่ละช่วงจะทยอยแล้วเสร็จประมาณเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2568 ปัจจุบันโครงการดังกล่าวมีความคืบหน้าตามแผนงานสะสม 69.15% ตามผลงานสะสม 20.66% นับว่าล่าช้ากว่าแผนงาน -48.49% คาดว่าโครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนพุทธมณฑลสาย 1 จะแล้วเสร็จประมาณเดือนเมษายน 2569

ในการนี้มี นางธราพร อำนวยสาร ผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตภาษีเจริญ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล

#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี #เศรษฐกิจดี#บ้านนี้ไม่เทรวม #แยกขยะจ่ายน้อยกว่า #แยก20ไม่แยก60

—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)