(2 พ.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายตง ธีระนุสรณ์กิจ รองประธานกรรมการ และประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOA) ความร่วมมือโครงการ “จุดไฟปรุงฝัน ปีที่ 2 – ปลุกพลังโดยมืออาชีพ” เพื่อความร่วมมือระหว่าง กรุงเทพมหานคร (กทม.) กับ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในการพัฒนาศักยภาพของผู้เช้าร่วมโครงการให้มีอาชีพ สามารถสร้างรายได้จากการผลิตอาหารและเบเกอรี่ ซึ่งบันทึกข้อตกลงข้างต้นมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 1 ปี และอาจจะขยายความร่วมมือต่อไปได้หากกรุงเทพมหานคร และบริษัท เคซีจี เห็นชอบร่วมกัน และจัดทำบันทึกข้อตกลงฉบับแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อขยายเวลา

“โครงการ “จุดไฟปรุงฝัน ปีที่ 2 – ปลุกพลังโดยมืออาชีพ” เป็นโครงการที่ช่วยประชาชนอย่างแท้จริง การให้ความรู้เป็นสิ่งที่ติดตัวไปตลอดชีวิต แต่สิ่งที่ดีคือไม่ได้ให้แค่เรื่องการปรุงอาหาร ยังให้ความรู้เรื่องการอยู่รอดในธุรกิจด้วย มีคนจำนวนมากที่ทำอาหารอร่อยแต่ธุรกิจจะเจ๊งเพราะคิดต้นทุนไม่เป็น บริหารเรื่องอาหารหรือสุขอนามัย หรือการขอใบอนุญาตไม่เป็น การทำธุรกิจต้องดูครบวงจร ดีใจมากที่หลักสูตรนี้ทำครบวงจรทำให้คนที่เข้าร่วมโครงการสามารถไปประกอบกิจการได้อย่างแท้จริง ขอให้ขยัน คนขยันไม่มีทางอดตาย ยิ่งมีความรู้ยิ่งไปใหญ่ มีอะไรให้ กทม. รับใช้ก็ยินดี และขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ และถ้ามีโอกาสก็แบ่งคืนให้สังคมบ้าง” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวปิดโครงการ “จุดไฟปรุงฝัน ปีที่ 2 – ปลุกพลังโดยมืออาชีพ”

สำหรับโครงการ “จุดไฟปรุงฝัน ปีที่ 2 – ปลุกพลังโดยมืออาชีพ” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 26 เมษายน 2568 รวม 10 ครั้ง ประกอบด้วยหลักสูตรด้าน อาหาร ธุรกิจ และบัญชี ซึ่งถ่ายทอดโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ครอบคลุมเนื้อหา หลักสูตรภาคทฤษฎี จำนวน 6 ครั้ง และหลักสูตรภาคปฏิบัติการทำอาหาร จำนวน 4 ครั้ง ดังนี้ หลักสูตรภาคทฤษฎี 6 ครั้ง ได้แก่ 1. หัวข้อ แนวโน้มสินค้าโมเดิร์นไลฟ์ สไตล์ 2. หัวข้อ พื้นฐานการเงินเพื่อผู้ประกอบการ 3. หัวข้อ การสร้างแบรนด์ให้แตกต่าง 4. หัวข้อ Digital Marketing เข้าใจง่ายใน 60 นาที 5. หัวข้อ แอปลิเคช่ันการเงิน ผู้ช่วยร้านค้าตัวจริง ด้วย แม่มณี และ 6. หัวข้อ การบริหารจัดการครัว 

หลักสูตรภาคปฏิบัติการทำอาหาร 4 ครั้ง รวม 8 เมนู ประกอบด้วย อาหารตะวันตก และเบเกอรี่ ซึ่งเมนูอาหารตะวันตก ได้แก่ 1. ลาซาญญ่าน้ำพริกอ่อง 2. พาสต้าซอสมัสมั่น และการขึ้นครีมซอส 3. การขึ้นแป้งพิซซ่านาโปลีซอสทรัฟเฟิล และพิซซ่าแซนวิชแฮมชีส 4. กลุ่มอาหาร Western Cuisine Thai Twist ประกอบด้วย ซุปเห็ดทรัฟเฟิล / แซลมอนย่างราดซอสต้มยำ / ทาร์ตกุ้งกระเทียมพริกไทย และสเต็กเนื้อซอสคั่วกลิ้งและสลัด ส่วนเมนูเบเกอรี่ ประกอบด้วย 1. กลุ่ม Hybrid Bakery ได้แก่ คราวนี่และครุกกี้ 2. กลุ่ม Korean Style Cake ได้แก่ เครปมัทฉะผลไม้ และ สตรอเบอรี่ชีสเค้ก 3. กลุ่ม Chocolate Lover ได้แก่ เค้กชอคโกแลตหน้าส้ม และ ชีสชอคโกแลตคัพเค้ก 4. กลุ่ม Trendy Soft Cookies ได้แก่ คุกกี้นิ่มชอคโกแลตกานาช / คุกกี้นิ่มชีสเค้ก และ คุกกี้เรดเวลเว็ทมาร์ชเมลโลว์ 

ผู้เข้าร่วมโครงการ 66 คน ผ่านการอบรมในโครงการ 60 คน โดยผู้เข้าร่วมโครงการมีทั้งผู้ประกอบการที่มีร้านในช่องทางออนไลน์ ผู้ประกอบการที่มีหน้าร้าน กลุ่มวิทยากร ผู้สอน และอาชีพอิสระ 

โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ นางสาวกาญจนา ภูพิพัฒน์ผล ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม นายวีระยุทธิ์ กุศลส่งเสริม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามเป็นพยาน ดร.วัลลภ สุวรรณดี อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ร่วมในพิธี

————-