(18 เม.ย. 68) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เพื่อรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 และแถลงสรุปผลการดำเนินงานความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ช่วงควบคุมเข้มข้น 7 วัน 11 – 17 เม.ย. 68 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 พร้อมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานภาคีเครือข่าย ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 1 ปภ. อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่มีนักท่องเที่ยวเล่นสงกรานต์ในกรุงเทพฯ นับจากกล้อง CCTV และจุด Check Point มีจำนวน 3 ล้านกว่าคน เทียบกับปี 67 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวกว่า 5 ล้านคน ปีนี้ค่าเฉลี่ยจำนวนอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต ลดลงมาก พอ ๆ กับค่าเฉลี่ยของประเทศ ทั้งนี้ ในจำนวนผู้เสียชีวิต 19 ราย เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ 10 ราย โดย 6 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย จำนวนผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุสูงกว่าเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ดังนั้นหมายความว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นในแต่ละเคส เกิดจากความเร็วอย่างแน่นอน ทั้งนี้ไม่ได้รับรายงานว่ามีเหตุที่เกิดจากถนนลื่น เพราะฉะนั้นโดยรวมอาจเป็นเพราะพฤติกรรม นอกจากนี้กรุงเทพมหานครจะทบทวนว่าทางข้ามที่คนนิยมข้ามแต่ไม่ใช่ทางม้าลายต้องมีการปรับปรุงหรือไม่
ด้าน นายอนุทิน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ร่วมกันปฏิบัติงานเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนให้กับประชาชนอย่างเข้มข้นตลอดช่วง 7 วันที่ผ่านมา แม้ตอนนี้จะสิ้นสุดการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 แล้ว แต่ขอให้ทุกภาคส่วนและจังหวัดดำเนินการสร้างความปลอดภัยทางถนนให้พี่น้องประชาชนต่อเนื่อง โดยถอดบทเรียนการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ วิเคราะห์ข้อมูลในทุกมิติ เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการการดำเนินงานที่สามารถแก้ไขอุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และร่วมมือกันบูรณาการการทำงานเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างใกล้ชิดและจริงจัง โดยใช้กลไกของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนกรุงเทพมหานคร ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอ เขต (กทม.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับภาคประชาชน จิตอาสา และอาสาสมัครในพื้นที่ขับเคลื่อนการดำเนินงานเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงทั้งด้านคน ยานพาหนะ ถนน และสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น การแนะนำ ตักเตือน ป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดและการไม่สวมใส่อุปกรณ์นิรภัย การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์เนื่องจากเป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงที่สุด ควบคู่ไปกับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจ รวมไปถึงความตระหนักในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย เพื่อสร้างจิตสำนึกและวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในสังคมไทยอย่างยั่งยืน
