(13 มี.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตดอนเมือง ลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างถนนช่างอากาศอุทิศ เขตดอนเมือง ต่อเนื่องจากบกลงในคลองส่องความก้าวหน้าโครงการบ้านมั่นคง งานสร้างเขื่อนและขุดลอกคลองเปรมประชากร

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างถนนช่างอากาศอุทิศ ได้ทำการปรับปรุงโดยวางท่อ 1 ฝั่งขนาด 1.50 เมตร อีกฝั่งจะยกขอบและยกระดับถนนให้สูงขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาจุดอ่อนน้ำท่วม ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างถนนช่างอากาศอุทิศ แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 4 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 ถนนช่างอากาศอุทิศ จากสะพานปูถึงแยกศิริสุข ระยะทาง 1,200 เมตร อยู่ระหว่างหาตัวผู้รับจ้าง ช่วงที่ 2 ถนนช่างอากาศอุทิศ จากแยกศิริสุขสุดเขตทางสาธารณะ ระยะทาง 338 เมตร อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ช่วงที่ 3 ถนนช่างอากาศอุทิศ ซอยช่างอากาศอุทิศ 16 และถนนช่างอากาศอุทิศ ระยะทาง 343 เมตร ขอจัดสรรงบประมาณปี 2569 และช่วงที่ 4 ถนนช่างอากาศอุทิศ ภายในหมู่บ้านศิริสุข ระยะทาง 274 เมตร ขอจัดสรรงบประมาณปี 2569

“จุดนี้เป็นบริเวณที่น้ำท่วมเยอะแต่ก็มีโครงการลงมาเยอะเช่นกัน และมีความก้าวหน้าในระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ต้องระวังช่วงเปราะบางระหว่างการก่อสร้าง โดยสุดท้ายแม้อาจจะต้องรอถึงปี 69 แต่ถนนทั้งเส้นนี้ก็จะดีขึ้นหมด” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

จากนั้น ผู้ว่าฯ ชัชชาติ นั่งมอเตอร์ไซค์ต่อไปยังสะพานปูน ลงเรือส่งความก้าวหน้าคลองเปรมประชากร โดยกล่าวว่า ปัญหาของคลองเปรมประชากรคือ มีบ้านรุกล้ำ ทำให้สร้างเขื่อนไม่ได้ จึงทำให้ขุดลอกคลองไม่ได้ โดยพื้นที่ริมคลองเป็นของกรมธนารักษ์ และสร้างบ้านมั่นคง โดยเจรจาขอความร่วมมือให้ผู้ที่มีบ้านรุกล้ำย้ายมาอยู่ที่บ้านมั่นคง แต่ขณะนี้มีบางชุมชนและหลายบ้านรุกล้ำที่ยังไม่ยอมเข้าเนื่องจากต้องเสียค่าเช่ารวมค่าผ่อน 3,500 ต่อเดือน ซึ่งหากย้ายบ้านรุกล้ำได้ ก็จะสามารถทำเขื่อนและขุดลอกคลอง ขยายคลองให้กว้างขึ้นและจะระบายน้ำจากถนนช่างอากาศอุทิศได้ดียิ่งขึ้น ชีวิตของทั้งผู้คนริมคลองและรวมถึงชุมชนต่าง ๆ บริเวณนี้ก็จะดีขึ้น

“เชื่อว่าการย้ายบ้านขึ้นมาอยู่ข้างบน แม้จะต้องจ่ายค่าเช่า แต่ก็มีความมั่นคงในการดำรงชีวิตยิ่งขึ้นดั่งชื่อบ้าน เข้าใจว่าหลายคนไม่อยากเปลี่ยนแปลงเพราะอยู่มาช้านานและไม่เสียเงิน แต่ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเมืองก็พัฒนายาก การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะพัฒนาได้ในหลายมิติ” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับโครงการบ้านมั่นคงในเส้นทาง 4 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ดำเนินการเสร็จแล้ว ช่วงที่ 2 คืบหน้าประมาณ 21% ช่วงที่ 3 ประมาณ 44% และช่วงที่ 4 ประมาณ 42%

โดยระหว่างทางที่ล่องเรือสำรวจ ก็มีบ้านที่ไม่ยอมเข้าโครงการบ้านมั่นคงอยู่เป็นระยะโดยผู้แทนสำนักการระบายน้ำ รายงานว่า บางรายเข้ามาคุยก็ขอสิทธิเยอะเกินกว่าที่โครงการจะให้ได้ หรือส่วนใหญ่มีงานทำแต่รายได้น้อย บางรายรายได้จำกัดไม่สามารถผ่อนได้ จึงเป็นเหตุให้ไม่เข้าโครงการฯ ซึ่งผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้แนะนำให้เขตฯ ส่งฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคมลงมาช่วยติดตามว่ามีช่องทางช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง

“เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะคลองเปรมประชากรเป็นหัวใจในการระบายน้ำ หากระบายน้ำได้ไม่ดีก็ไม่สามารถนำน้ำจากด้านเหนือลงสู่ด้านล่างได้ ต้องพัฒนาปรับปรุง คนที่ลำบากก็ต้องหาทางช่วยเหลือกัน กทม. นึกถึงทุกคน ทุกกลุ่ม อาจจะถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้างเราก็น้อมรับทุกความคิดเห็น” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว