(15 ต.ค.67) เวลา 13.30 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ประกอบด้วย
เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ โรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี ถนนพลับพลาไชย พื้นที่ 2,445 ตารางเมตร มีพนักงาน 80 คน เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะ ตั้งแต่ปี 2567 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ เข้าร่วมโครงการ “ไม่เทรวม” อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับขยะอินทรีย์แก่พนักงานในการคัดแยกเศษอาหารออกจากขยะแต่ละประเภท ตั้งวางถังสำหรับใส่เศษอาหารทุกชั้น พนักงานในแต่ละชั้นจะรวบรวมขยะเศษอาหาร มาใส่ถังขยะเศษอาหารบริเวณชั้น 1 เขตฯ จัดเก็บทุกวัน 2.ขยะรีไซเคิล อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับขยะรีไซเคิลแก่พนักงานให้ทราบถึงประเภทของขยะรีไซเคิล ตั้งจุดรองรับขยะรีไซเคิล ส่วนที่เหลือจากการคัดแยกจะไปจำหน่าย โดยรวบรวมเงินที่ได้จากการจำหน่ายมาใช้ประโยชน์ส่วนรวมภายในสำนักงาน 3.ขยะทั่วไป อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับขยะทั่วไปแก่พนักงาน ตั้งวางถังรองรับขยะทั่วไปทุกชั้นของสำนักงาน และพนักงานสถานที่จะรวบรวมไว้ที่จุดพักขยะชั้น 1 เขตฯ จัดเก็บทุกวัน 4.ขยะอันตราย อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการตัดแยกขยะอันตราย เพื่อนำไปกำจัดตามวิธีที่เหมาะสม ตั้งจุดรองรับขยะอันตรายภายในสำนักงาน โดยรวบรวมไว้บริเวณชั้น 1 สำหรับปริมาณขยะก่อนและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 352 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 224 กิโลกรัม/เดือน ขยะรีไซเคิลหลังคัดแยก 8.50 กิโลกรัม/เดือน ขยะอินทรีย์หลังคัดแยก 108 กิโลกรัม/เดือน ขยะอันตรายหลังคัดแยก 1.10 กิโลกรัม/เดือน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้คำแนะนำแก่โรงงานในการคัดแยกขยะอินทรีย์ ขยะรีไซเคิล ขยะทั่วไป เพื่อให้การคัดแยกขยะประเภทต่างๆ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งปริมาณขยะที่คัดแยกจะมีผลต่ออัตราจัดเก็บค่าธรรมเนียมในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย
ตรวจการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า บริเวณถนนดำรงรักษ์ ซึ่งสำนักการโยธา จะดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณถนนดำรงรักษ์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย แต่เนื่องจากบริเวณทางเท้าทั้ง 2 ฝั่งของถนนดำรงรักษ์ ตั้งแต่ถนนดำรงรักษ์ตัดถนนจักรพรรดิพงษ์ ถึงถนนดำรงรักษ์ตัดถนนกรุงเกษม มีการตั้งปรุงอาหาร ขายหรือจำหน่ายสินค้า ดังนั้นเพื่อให้การปรับปรุงถนนและทางเท้าบริเวณถนนดำรงรักษ์ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาและอุปสรรค มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 และมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 และแก้ไขเพิ่มเดิม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ห้ามมิให้ผู้ใดปรุงอาหาร ขายหรือจำหน่ายสินค้า ติดตั้ง ตาก วาง หรือแขวนสิ่งใด ๆ ในที่สาธารณะ บริเวณถนนดำรงรักษ์ ตั้งแต่ถนนดำรงรักษ์ตัดถนนจักรพรรดิพงษ์ ถึงถนนดำรงรักษ์ตัดถนนกรุงเกษม หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป
ปัจจุบัน เขตฯ มีพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน จำนวน 12 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 177 ราย ได้แก่ 1.ดำรงรักษ์ ฝั่งโบ๊เบ๊ทาวเวอร์ ผู้ค้า 43 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 08.00-17.00 น. 2.ดำรงรักษ์ ฝั่งกระทรวงพัฒนาสังคม ผู้ค้า 28 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 08.00-17.00 น. 3.ถนนพะเนียง ฝั่งวัดโสมนัส ผู้ค้า 11 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 09.00-15.00 น. 4.ถนนเฉลิมเขต 2 ฝั่งธนาคารกรุงไทย ผู้ค้า 4 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-16.00 น. 5.วงเวียน 22 กรกฎาคม (หน้าอาคารหมอมี) ผู้ค้า 5 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-24.00 น. 6.ถนนยุคล 2 ผู้ค้า 4 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-16.00 น. 7.สวนมะลิ 1 ผู้ค้า 11 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-16.00 น. 8.ถนนเจริญกรุง (ตรอกอิสรานุภาพ) ผู้ค้า 15 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-18.00 น. 9.ถนนพลับพลาไชย ผู้ค้า 12 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-18.00 น. 10.ถนนเจริญกรุง (ปากซอยศรีธรรมาธิราช) ผู้ค้า 4 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 08.00-16.00 น. 11.ถนนมหาจักร ตั้งแต่ถนนเจ้าคำรบ ถึงถนนเจริญกรุง ผู้ค้า 27 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 08.00-16.00 น. 12.ถนนเจ้าคำรบ ตั้งแต่ถนนวรจักร ถึงถนนมหาจักร ผู้ค้า 13 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 08.00-16.00 น. ซึ่งในปี 2567 เขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้าแล้ว 3 จุด ได้แก่ 1.ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่ซอยถนนมังกร ถึงแยกแปลงนาม ผู้ค้า 3 ราย 2.ถนนมังกรตัดถนนเจริญกรุง ผู้ค้า 4 ราย 3.ถนนมังกร ตั้งแต่ถนนพลับพลาไชย ถึงถนนเจ้าคำรบ ผู้ค้า 21 ราย ส่วนพื้นที่ในจุดทำการค้า จำนวน 2 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 52 ราย ได้แก่ 1.ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่หน้าโรงพยาบาลกว๋องสิว ถึงแยกหมอมี (ถนนมิตรพันธุ์) ผู้ค้า 24 ราย (กลางวัน เวลา 09.00-16.00 น. ผู้ค้า 12 ราย กลางคืน เวลา 08.00-24.00 น. ผู้ค้า 12 ราย) 2.ถนนวรจักร ตั้งแต่แยกวรจักร ถึงธนาคารกรุงเทพ ผู้ค้า 28 ราย (กลางวัน เวลา 09.00-15.00 น. ผู้ค้า 25 ราย กลางคืน เวลา 08.00-24.00 น. ผู้ค้า 3 ราย) ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยพื้นที่ทำการค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขทำการค้าปี 67 กวดขันผู้ค้าไม่ให้ตั้งวางสินค้ารุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ทางเท้า ขอความร่วมมือผู้ค้าทำความสะอาดพื้นที่หลังเลิกทำการค้าในแต่ละวัน รวมถึงพิจารณาหาแนวทางยกเลิกจุดที่มีผู้ค้าจำนวนน้อยราย โดยให้ย้ายเข้ามาทำการค้าในจุดที่เขตฯ จัดเตรียมไว้รองรับ เพื่อความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่
พัฒนาสวน 15 นาที บริเวณกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ซึ่งเขตฯ ได้ปรับปรุงภูมิทัศน์ จัดวางม้านั่ง แขวนไม้ประดับตามแนวรั้ว ติดตั้งเครื่องออกกำลังกาย ปัจจุบันเขตฯ มีสวน 15 นาที จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ 1.สวนหย่อมวงเวียน 22 กรกฎา พื้นที่ 1 ไร่ 1 งาน กรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นที่ราชพัสดุ 2.สวนหย่อมจักรพรรดิพงษ์ พื้นที่ 9 ตารางวา 3.สวนริมคลองผดุงกรุงเกษม (แยกมัฆวาน-แยกเทวกรม) พื้นที่ 1 ไร่ 2 งาน 4.สวนหย่อมและลานกีฬาศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และสตรี พื้นที่ 2 งาน กรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ พิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้พื้นที่จัดทำสวน 15 นาที ให้ครบ 10 แห่ง ตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกแบบพื้นที่ภายในสวนให้ตรงตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการภายในสวนอย่างแท้จริง
ในการนี้มี นายเพ็ชร ภุมมา ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล
สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี #เศรษฐกิจดี
—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)
