ปมสั่งจ่ายหนี้วิ่ง’บีทีเอส’สายสีเขียว1.2หมื่นล้าน
ศาลศาลาว่าการกทม. – เมื่อวันที่ 5 ส.ค. นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินงานตามคำสั่งปกครองสูงสุด เรื่องการชำระหนี้เดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนที่ 1 และ 2 จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท ให้กับบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด (บีทีเอสซี) ว่า ภายหลังรับทราบคำสั่งศาลปกครองสูงสุด คณะผู้บริหารกทม. ได้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน
ล่าสุดได้มอบหมายสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ไปประสานสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อนัดประชุมหารือใน รายละเอียดของคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในประเด็น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิคัดค้านองค์คณะไต่สวน คดีหมายเลขดำที่ 09-3-052/2560 ลงวันที่ 10 ม.ค.66 ถึงผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) กรณีกล่าวหาว่าอดีตผู้ว่าฯ กทม. กับพวกรวม 13 คน กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีขยายอายุสัญญาสัมปทานหรือทำสัญญาเพิ่มเติมให้กับผู้ฟ้องคดีให้ประกอบกิจการระบบขนส่งมวลขนกรุงเทพมหานครต่อไปอีก 13 ปี ทั้งที่ยังเหลืออายุตามสัญญาเดิมอีก 17 ปี อันเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ฟ้องคดี ศาลฯ เห็นว่า กรณีดังกล่าวคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่มีการชี้มูลความผิด จึงไม่มีผลต่อสัญญาพิพาทในคดีนี้แต่อย่างใด แต่ข้อเท็จจริง คณะกรรมการป.ป.ช. ชี้มูลความผิดไปแล้วเมื่อเดือนก.ย.2566
นายวิศณุกล่าวว่า กทม.จึงขอให้อัยการไปร่วมกันหารือและพิจารณารายละเอียดประเด็นดังกล่าวว่าสามารถขอความเห็นกับศาลปกครองสูงสุดได้หรือไม่ว่า กทม.ยังคงต้องชำระหนี้เดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนที่ 1 และ 2 จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาทให้กับบีทีเอสซี ตามคำสั่งศาลปกครองอีกหรือไม่ อย่างไรก็ตามกทม. ไม่มั่นใจว่าจะขอความเห็นกับศาลปกครองสูงสุดได้หรือไม่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของอัยการว่าจะดำเนินการอย่างไร
ขณะเดียวกันสจส. เตรียมนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร เพื่อขอความเห็นชอบในการใช้เงินสะสมจ่ายขาด เพื่อชำระหนี้เดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนที่ 1 และ 2 จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาทในเร็วๆ นี้ สาเหตุที่ต้องเร่งดำเนินการ เพราะมีดอกเบี้ยเดินวันละ 2 ล้านบาท
ที่มา: นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 6 ส.ค. 2567