(28 พ.ค. 67) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำทีมรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงกับสื่อมวลชน ในโอกาสการครบรอบ 2 ปีของการทำงาน ภายใต้ชื่องาน “2 ปี ทำงาน ‘เปลี่ยน ปรับ’ ยกระดับเมืองน่าอยู่” พร้อมทั้งแสดงวิสัยทัศน์การทำงานในอีก 2 ปีข้างหน้า ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวถึงสิ่งที่ได้ทำตลอดช่วงระยะ 2 ปีที่ผ่านมา เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของกรุงเทพมหานครเพื่อความสุขที่มากขึ้นของชาวกรุงเทพมหานคร ทำให้ตอนนี้กรุงเทพฯมีการเปลี่ยนแปลง ในหลายๆเรื่อง ประเด็นแรกที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ การปรับ Traffy Fondue คือหนึ่งในตัวอย่างที่ได้ทำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาของประชาชน โดยตัดขั้นตอนจากที่ต้องใช้เอกสารมาเป็นออนไลน์ตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่ง 2 ปีที่เปิดให้ประชาชนร้องเรียนความเดือดร้อนผ่าน Traffy Fondue ได้ลงมือแก้ไขเสร็จสิ้นแล้ว 465,291 เรื่อง จากที่มีการร้องเรียนเข้ามาทั้งหมด 588,842 เรื่อง คิดเป็น78% อยู่ระหว่างแก้ไข 58,456 เรื่อง เฉลี่ยระยะเวลาที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนมา ลดลง 97% จากเดิมใช้เวลาประมาณ 2 เดือน เหลือเพียง 2 วัน อย่างล่าสุดได้ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างที่ซอยประชาอุทิศ 17 เสร็จภายใน 1 วัน 12 ชั่วโมง หลังได้รับแจ้งจากประชาชนผ่านทาง Traffy Fondue ทางเท้าถนนบรรทัดทอง ซ่อมพื้นผิวเสร็จภายใน 4 วัน เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันนี้ได้ลดขั้นตอนให้แจ้งเรื่องร้องเรียนได้ง่ายขึ้น โดยลดคำถามจากเดิม 5 คำถาม เหลือ 3 คำถาม นำ AI เข้ามาใช้ในการระบุประเภทของเรื่องร้องเรียนอีกด้วย
ส่วนทางเดินเท้าเป็นอีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างชัดเจน เนื่องจาก กทม. มุ่งมั่นในการทำทางเท้าให้เอื้อต่อการใช้งานของคนทุกเพศทุกวัย ตลอดจนคนพิการและผู้สูงวัยได้ใช้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยยึดมาตรฐานทางเท้าที่แข็งแรง คงทน และสวยงามด้วย ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้ปรับปรุงทางเท้าไป 785 กม. ขณะเดียวกันได้ปรับพื้นลดความสูงของทางเท้า ทางเข้าออกอาคารให้เรียบเสมอทางเท้า
อีกเรื่องที่สำคัญสำหรับชาวกรุงเทพมหานครเป็นอย่างยิ่งก็คือเรื่องของการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม นับตั้งแต่มีการถอดบทเรียนและรวบรวมข้อมูลจุดน้ำท่วมทั่วกรุงเทพฯ ในปี 2565 พบจุดสำคัญที่ต้องแก้ไข 737 จุด ขณะนี้แก้ไขแล้ว 370 จุด และจะแก้ไขได้ทันในปี 67 อีก 190 จุด ซึ่งการล้างท่อระบายน้ำทำไปแล้ว 4,200 กม. ทำความสะอาดคลองเปิดทางน้ำไหล 1,960 กม. ขุดลอดคลอง 217 กม. พร้อมทั้งทำการบำรุงรักษาประตูระบายน้ำ สถานีสูบน้ำ ล้างอุโมงค์ระบายน้ำทุกแห่ง และตรวจสอบเครื่องสูบน้ำทุกเครื่องให้พร้อมใช้งาน
ทางด้านการลดปัญหาฝุ่นละออง ทางกทม. ได้ให้ความสำคัญเพื่ออากาศสะอาดของชาวกรุงเทพมหานครนอกเหนือจากดำเนินการตามมาตรการลดฝุ่นที่ได้ทำมาอย่างต่อเนื่องแล้ว จากนี้จะมีการเปลี่ยนรถบริการของ กทม. ไม่ว่าจะเป็น รถเก็บขยะ รถบรรทุกน้ำ รถสุขาเคลื่อนที่ รถบรรทุก 6 ล้อ จากรถที่ใช้พลังงานดีเซลมาเป็นรถพลังงานไฟฟ้าแทน ทั้งนี้จากการคำนวณรถขยะขนาด 5 ตัน สามารถลดค่าเช่าลงเหลือ 2,240 บาท/คัน/วัน จาก 2,800 บาท/คัน/วัน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเหลือ 200 ตัน/ปี จาก 2,256 ตัน/ปี ลดการปล่อย PM2.5 เหลือเป็นศูนย์ จาก 22 กก./ปี และลดต้นทุนพลังงานเหลือ 455 บาท/เที่ยว จาก 1,300 บาท/เที่ยว โดยมีแผนรับมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในปี 67 จำนวน 615 คัน ปี 68 จำนวน 392 คัน และปี 69 อีก 657 คัน นอกจากนี้ยังเร่งรัดการก่อสร้างโรงเผาเพื่อผลิตไฟฟ้าอ่อนนุช-หนองแขม เพื่อลดการฝังกลบ และลดต้นทุนการจัดการขยะ โดยคาดว่าจะเปิดในปี 69 ซึ่งจะประหยัดเงินค่าจัดการขยะได้ 172,462,500 บาท/ปี
โอกาสนี้อยากเชิญชวนคนกรุงเทพฯ เตรียมตัวพบกับงานนิทรรศการกรุงเทพมหานคร ปี 2567 หรือ BKK EXPO 2024 ภายใต้แนวคิด “เมืองเปลี่ยนได้เพราะคุณ” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่าง 20-23 มิถุนายน 2567 ณ อาคารพิพิธภัณฑ์สวนป่าเบญจกิติ สวนเบญจกิตติ เขตคลองเตย นิทรรศการมีชีวิตที่ให้คนกรุงเทพฯ และผู้สนใจทุกวัยได้ไปร่วมสัมผัสความเป็นเมืองในยุค 2024 ผ่านกิจกรรม การสาธิต เกม การเล่าเรื่อง การละเล่นที่สนุกสนาน ใน 5 เมือง บูทอาหารร้านเด็ดจาก 50 เขต สินค้าชุมชน กิจกรรมเวิร์กช็อปต่าง ๆ สนามเด็กเล่นกลางแจ้งขนาดใหญ่โดยกลุ่มสร้างสรรค์การเรียนรู้ เวทีเสวนาและการแสดงที่หลากหลาย โดยสามารถติดตามรายละเอียดผ่านเฟซบุ๊กเพจ “กรุงเทพมหานคร”
อ่านรายละเอียดทุกโครงการได้ที่ https://citly.me/nsgoH
————-