ป้องกัน’ฮีตสโตรก’กลุ่มเสี่ยงสูงวัย-ป่วยติดเตียง-น.ร.
ศาลาว่าการกทม. – เมื่อวันที่ 27 ก.พ. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครว่า ขณะนี้ กทม.มีความกังวลอย่างยิ่งเรื่องอุณหภูมิที่สูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะการเตรียมรับมือกับโรคฮีตสโตรก หรือโรคลมแดด ในกลุ่มเปราะบางจากความร้อนที่อาจสูงขึ้นมาก โดยปี 2567 คาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะสูงกว่าปกติ 1-2 องศาเซลเซียส จากปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อปี 2541 และปี 2559
นายชัชชาติกล่าวว่า กทม.ได้เตรียมมาตรการรับมือ ประกอบด้วย 1.การเฝ้าระวังแจ้งเตือนประชาชนในการป้องกันสุขภาพ 2.มาตรการลดอุณหภูมิเมือง สั่งการให้ทุกเขตประเมินจุดเสี่ยง ในพื้นที่ เช่น ชุมชน โรงเรียน สถานที่ก่อสร้าง สวนสาธารณะ 3.ประชาสัมพันธ์ถึงผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง เช่น ผู้ที่ชอบออกกำลังกาย แรงงานก่อสร้าง เกษตรกร ให้เฝ้าระวังการทำงานหรือกิจกรรมกลางแจ้ง 4.จัดฝึกอบรมแนวทางการรับมือให้นักเรียนในโรงเรียน 5.ปรับเวลาการทำงานของเจ้าหน้าที่กวาด งดการทำงานในช่วงเวลา 11.00 น. ถึง 15.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดของวัน 6.ดำเนินโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้นอย่าง ต่อเนื่อง และส่งเสริมร่างผังเมืองรวมฯ ให้มีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น เพื่อลดอุณหภูมิเมืองในระยะยาว
นายชัชชาติกล่าวว่า สาเหตุสำคัญของโรคฮีตสโตรกยังมีเรื่อง ดัชนีความร้อน (Heat Index) ประกอบด้วย เนื่องจากอุณหภูมิสูงควบคู่กับความชื้นสูง ทำให้เหงื่อในร่างกายไม่ระเหย เกิดสภาวะร่างกายเสียน้ำแต่อุณหภูมิร่างกายไม่ลดลง ซึ่งต้องให้ความรู้ โดยเฉพาะในเด็กนักเรียน โดยกำหนดมาตรการขึ้นป้ายแจ้งเตือนเรื่องความร้อนและความชื้นประจำวันในโรงเรียน เพื่อระมัดระวัง ตัวมากขึ้น รวมถึงนำมาตรการทั้งหมดไปใช้ในชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางต่างๆ เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ เป็นต้น ตลอดจนสวนสาธารณะ
ด้านนายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนัก สิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. กล่าวถึงแนวทางการเฝ้าระวังและ ดูแลสุขภาพบุคลากร กทม.ที่ต้องปฏิบัติงานกลางแจ้ง เช่น พนักงานกวาดถนน และพนักงานเก็บขนมูลฝอย ว่าได้กำหนดเวลาการทำงานของพนักงานกวาดถนน แบ่งเป็น 2 รอบ คือ รอบเช้า เวลา 05.00-12.00 น. และรอบบ่าย เวลา 12.00- 20.00 น. ขณะเดียวกันได้ให้ความรู้การดูแลและป้องกันตัวเองจากโรคลมแดด หรือ ฮีตสโตรก เช่น พกน้ำดื่มเพื่อจิบดื่มบ่อยๆ และสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการป่วยให้รีบแจ้งเพื่อน ร่วมงาน หรือผู้บังคับบัญชา
ที่มา: นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 28 ก.พ. 2567