นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามเร่งรัดงานก่อสร้างและซ่อมแซมอุโมงค์ระบายน้ำจากบึงหนองบอนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่พังเสียหายเมื่อปี 65 ว่า โครงการระบายน้ำบึงหนองบอน เป็นการระบายน้ำจากบึงหนองบอนไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ลักษณะเป็นอุโมงค์ที่ขุดลึกลงไปประมาณ 30 เมตร และมีช่องรับน้ำเป็นปล่อง(SHAFT) ลงไปประมาณ 8 ปล่อง ส่วนที่เสียหายคืออุโมงค์ที่อยู่ระหว่างปล่อง 2 กับปล่อง 3 ตัวอุโมงค์เกิดความเสียหาย ทำให้น้ำทะลักเข้ามา
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทั้งผู้รับจ้างและ ที่ปรึกษาควบคุมงานผู้รับจ้าง ร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญหลายทีมมีการหาแนวทางแก้ไขปัจจุบันผู้รับจ้างดำเนินการซ่อมแซมบริเวณปล่อง 3 ไม่ให้มีน้ำรั่วไหลด้วยการอุดแล้ว ส่วนการแก้ไขของผู้รับเหมาต่อไปคือ การเจาะอุโมงค์ใหม่จากปล่อง 2ไปปล่อง 3 ที่บนความลึกระดับ 21-24 เมตรตามแนวเดิม โดยเดิมความลึกอยู่ที่ 30 เมตร และดำเนินการเจาะใหม่โดยนำหัวเจาะลงไปบริเวณปล่อง 2 แล้วดันไปเรื่อย ๆ จนถึงปล่อง 3
อย่างไรก็ตาม ในส่วนปล่อง 4 เป็นต้นไป ไม่ได้รับความเสียหาย จึงมีแนวคิดเปิดใช้งาน เพื่อช่วยบรรเทาการระบายน้ำช่วงบางนา พระโขนงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาช่วงหน้าฝน ขณะนี้ให้ผู้รับจ้างดำเนินการนำเอาดินที่ตกค้างอยู่ข้างในปล่องอุโมงค์ออก เพราะหากมีดินตกค้างจะใช้ระบายน้ำไม่ได้ เนื่องจากดินจะไปทำลายปั๊มที่อยู่ปลายอุโมงค์ ทำให้ต้องปิดเบี่ยงจราจร บริเวณซอยอุดมสุข 56 ถึงซอยอุดมสุข 42 เหลือเพียง 2 เลน เพื่อเร่งขนดินออก เบื้องต้นเร่งรัดให้ผู้รับจ้างคืนผิวจราจรไม่เกินปลายเดือน มิ.ย.นี้
นายวิศณุ ยังกล่าวถึง สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการอีกอย่างคือ การซ่อมแซมสะพานข้ามคลองเคล็ด ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นสะพานชั่วคราวมี 2 ช่องจราจรที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาสัญจรตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุ แต่เนื่องจากตัวสะพานคร่อมปล่อง 3 พอดี ดังนั้น จากการพูดคุยผู้รับจ้างจะซ่อมปล่อง 3 ให้แล้วเสร็จก่อน ค่อยซ่อมสะพาน
“จะมีการเพิ่มความแข็งแรงของ ดินก่อนที่หัวเจาะจะเข้ามา และจะทำฐาน รากของตัวสะพาน โดยระยะเวลาในการทำสะพานให้เสร็จทั้ง 2 ฝั่งรวม 4 ช่องจราจรประมาณปลายปี 68 และเก็บงานที่เหลือคาดว่าจะเปิดใช้เต็มระบบได้ มี.ค. 69” นายวิศณุ ระบุ.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 28 ก.พ. 2567 (กรอบบ่าย)
