(23 ม.ค.67) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามโครงการจ้างเหมาเอกชนเก็บขนและกำจัดมูลฝอยติดเชื้อที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ณ โรงงานเตาเผามูลฝอยติดเชื้อศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ถนนพุทธมณฑลสาย 3 เขตหนองแขม
กรุงเทพมหานคร ได้ว่าจ้างให้ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ดำเนินการเก็บขนและกำจัดมูลฝอยติดเชื้อที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขมและอ่อนนุช โดยสัญญาเริ่มต้นวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 สิ้นสุดวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี โดยใช้เทคโนโลยีในโรงงานกำจัดมูลฝอยติดเชื้อหนองแขม เป็นเตาเผามูลฝอยติดเชื้อแบบหมุนแนวนอน (Rotary Kiln) มีลักษณะเป็นแบบ 2 ห้องเผา เพื่อให้มีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ จำนวน 2 เตาเผา ระบบไพโลไรซีส (Pyrolysis) ประสิทธิภาพการเผา 500 กก./ชม. หรือ 10 ตัน/วัน/เตา คิดเป็น 20 ตันต่อวัน พื้นที่ 3 ไร่ ส่วนโรงงานกำจัดมูลฝอยติดเชื้ออ่อนนุช เป็นเตาเผามูลฝอยติดเชื้อแบบหมุนแนวตั้ง (Rotary Kiln) มีลักษณะเป็นแบบ 2 ห้องเผา เพื่อให้มีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ จำนวน 2 เตาเผา ระบบไพโลไรซีส (Pyrolysis) และระบบแก๊สซิฟิเคชั่น (Gasification) ประสิทธิภาพการเผา 500 กก./ชม. หรือ 10 ตัน/วัน/เตา คิดเป็น 20 ตันต่อวัน พื้นที่ 5.3 ไร่ และเป็นเตาเผามูลฝอยติดเชื้อแบบหมุนแนวตั้ง (Rotary Kiln) มีลักษณะเป็นแบบ 2 ห้องเผา เพื่อให้มีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ จำนวน 2 เตาเผา ระบบไพโลไรซีส (Pyrolysis) และระบบแก๊สซิฟิเคชั่น (Gasification) ประสิทธิภาพการเผา 750 กก./ชม. หรือ 15 ตัน/วัน/เตา คิดเป็น 30 ตันต่อวัน พื้นที่ 1.3 ไร่ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับผู้ประกอบดูแลบริหารจัดการระบบต่างๆ ในโรงงานกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหากลิ่นรบกวนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักสิ่งแวดล้อม พิจารณาหาแนวทางบริหารจัดการโครงการจ้างเหมาเอกชนเก็บขนและกำจัดมูลฝอยติดเชื้อในระยะที่ 2 ต่อไป
พร้อมกันนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เยี่ยมชมโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการจัดการขยะอินทรีย์ ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพในสภาพควบคุมสิ่งแวดล้อมด้วยการเลี้ยงหนอนแมลงทหารดำ ภายในศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม เนื่องจากการที่ขยะอาหารส่วนใหญ่มาจากครัวเรือนและไม่มีการคัดแยก ทำให้ขยะที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ถูกทำให้ปนเปื้อนอาหาร จนไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ก่อให้เกิดการสูญเสียเพิ่มขึ้น ซึ่งโครงการกำจัดขยะอินทรีย์ด้วยหนอนแมลงทหารดำ เป็นการเริ่มต้นกำจัดขยะอาหารจากภาคบริการอาหาร เช่น ศูนย์การค้า ศูนย์การประชุม โรงแรม ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือจากส่วนราชการ สถาบันการศึกษา ซึ่งง่ายต่อการขอความร่วมมือในการคัดแยกขยะอินทรีย์จากต้นทาง การกำจัดขยะอาหารด้วยหนอนแมลงทหารดำ (BLACK SOLDIER FLY) ชื่อวิทยาศาสตร์ HERMETIA ILLUCENS เป็นการจัดการขยะอาหาร โดยการนำมาผลิตเพื่อใช้ใหม่ (RECYCLE) เพื่อเป็นโปรตีนทางเลือกสำหรับการผลิต หรือให้เป็นอาหารสัตว์ และปุ๋ย เพื่อลดการกำจัด (DISPOSAL) ด้วยการนำไปเผา หรือฝังกลบ ซึ่งขณะนี้มีหลายๆ เมือง หรือหลายประเทศ ได้นำวิธีการกำจัดขยะอาหารแบบนี้มาใช้
สำหรับกระบวนการเลี้ยงหนอนแมลงทหารดำ มีดังนี้ 1.รับขยะอาหาร และโม่บดอาหาร เพื่อให้หนอนกำจัดขยะเศษอาหารได้มากที่สุด และทำให้ขยะอาหารใช้พื้นที่ในการจัดเก็บน้อยที่สุด 2.ใช้ขยะอาหารเพาะหนอนออกจากไข่ เป็นหนอนอนุบาลใช้เวลา 5 วัน โดยไข่ 1 กิโลกรัม เลี้ยงจนเสร็จสิ้นกระบวนการ สามารถจัดการขยะได้ 13 ตัน 3.หลังจากตัวหนอนฟักออกจากไข่ เลี้ยงต่อไปอีก 5 วัน เพื่อให้หนอนโตเต็มวัย 4.หนอนอายุ 10 วัน สามารถนำไปเป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ได้ 5.คัดแยกหนอนออกมาประมาณ 10% โดยไม่นำไปเป็นอาหารสัตว์ แต่นำไปเลี้ยงต่ออีก 15 วัน จนเป็นดักแด้ เพื่อนำไปขยายพันธุ์ 6.มูลของหนอนนำไปเป็นปุ๋ย ซึ่งวิธีนี้สามารถลดภาวะปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่าวิธีทำปุ๋ยหมักถึง 47 เท่า 7.เลี้ยงดักแด้ต่ออีก 10 วัน จะกลายเป็นตัวแมลง หาคู่ และวางไข่ เพื่อขยายพันธุ์เข้าสู่กระบวนการขั้นตอนที่ 2 ต่อไป ทั้งนี้ ขยะ 1 ตัน จะได้หนอนเต็มวัน 600 กิโลกรัม สำหรับนำไปเป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ และจะได้ปุ๋ยประมาณ 300 กิโลกรัม
ในการนี้มี นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อม บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล
#สิ่งแวดล้อมดี #บริหารจัดการดี
—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)