รายงานข่าวจากสำนักการระบายน้ำ กทม.แจ้งว่า สำนักการระบายน้ำได้จัดสรรงบประมาณวงเงิน 29,660,000 บาท ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท โปรเกรส เทคโนโลยีคอนซัลแท็นส์ จำกัด ร่วมกับบริษัท พีเอสเค คอนซัลแทนส์ จำกัด เป็นบริษัทที่ปรึกษาศึกษาความเป็นไปได้ในการให้เอกชนร่วมลงทุนและดำเนินโครงการบำบัดน้ำเสียคลองเตยตาม พ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนพ.ศ.2562 ในการศึกษาดังกล่าวกทม.พิจารณาทางเลือกการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน(Public Private Partnership หรือ PPP)ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางการเงิน กทม.มีความเห็นว่าการร่วมลงทุนรูปแบบ PPP Modified Gross Cost เอกชนจะมีอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น มูลค่าปัจจุบันสุทธิของโครงการ และตัวชี้วัดทางการเงินอื่นสูงกว่าการร่วมทุนรูปแบบโครงการบำบัดน้ำเสียคลองเตย PPP Gross Cost แต่รัฐจะมีภาระทางการเงินสูงกว่าภาระทางการเงินของการร่วมลงทุนรูปแบบ PPP Gross Cost ดังนั้น รูปแบบ PPP Gross Cost เป็นรูปแบบที่เหมาะสมที่สุด
สำหรับโครงการบำบัดน้ำเสียคลองเตย เป็นรูปแบบก่อสร้างโอน-ดำเนินงาน(Build-Transfer-Operate:BTO)ซึ่งเอกชนจะโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของโครงการให้แก่ กทม.ทันทีเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จก่อนที่จะเริ่มให้บริการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอหลักการของโครงการร่วมลงทุนและรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการให้ผู้ว่าฯกทม.ลงนาม เพื่อเสนอ รมว.มหาดไทยให้ความเห็นชอบก่อนเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนเพื่อพิจารณา
โครงการโรงบำบัดน้ำเสียคลองเตยครอบคลุมพื้นที่เขตคลองเตย เขตพระโขนงและพื้นที่บางส่วนของเขตวัฒนา เขตบางนา เขตสวนหลวง และเขตประเวศรวมเป็นพื้นที่บริการบำบัดน้ำเสียประมาณ 67.13 ตร.กม. กทม.ได้เตรียมพื้นที่เพื่อก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสียคลองเตย ตั้งอยู่ในแขวงบางจาก เขตพระโขนง พื้นที่ 28.64 ไร่ มีขีดความสามารถในการบำบัดน้ำเสีย 332,000 ลบ.ม./วัน สามารถรองรับอัตราการไหลของน้ำเสียได้ 996,000 ลบ.ม./วัน.
ที่มา: นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 27 ธ.ค. 2566