(19 ธ.ค. 66) เวลา 13.30 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เขตสายไหม เพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย
สำรวจพื้นที่โครงการก่อสร้างเส้นทางลัดใต้ทางด่วนฉลองรัช จากทางลงถนนสุขาภิบาล 5 ถึงถนนจตุโชติ บริเวณปากซอยถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 42 เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณถนนสุขาภิบาล 5 ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ ประสานสำนักการจราจรและขนส่งเพื่อพิจารณาถึงรูปแบบถนนและความปลอดภัยในการจราจร พร้อมทั้งประสานการทางพิเศษแห่งประเทศไทยขอใช้พื้นที่ใต้ทางด่วนเพื่อก่อสร้างเส้นทางลัดในบริเวณดังกล่าว
จากนั้นลงพื้นที่โครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. และปรับปรุงภูมิทัศน์คลองสอง คลองหกวา และคลองพระยาสุเรนทร์ จากประตูระบายน้ำคลองสองถึงสะพานสายไหมหทัยราษฎร์ บริเวณซอยสายไหม 1 (คลอง 2) และบริเวณซอยสายไหม 85 ซึ่งโครงการดังกล่าว ประกอบด้วย การก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. และปรับปรุงภูมิทัศน์คลองสอง ความยาว 1,700 เมตร คลองหกวา ความยาว 5,400 เมตร และคลองพระยาสุเรนทร์ ความยาว 1,070 เมตร ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ ลงพื้นที่พูดคุยสร้างความเข้าใจกับประชาชนที่ปลูกสร้างสิ่งรุกล้ำริมคลอง ให้เห็นถึงความสำคัญของส่วนรวมและประโยชน์ที่ได้รับจากการก่อสร้างเขื่อน พร้อมทั้งติดประกาศแจ้งให้ผู้รุกล้ำทราบถึงการดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างออกไป อย่างไรก็ตามเมื่อโครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. และปรับปรุงภูมิทัศน์คลองสอง คลองหกวา และคลองพระยาสุเรนทร์แล้วเสร็จ จะเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รวมถึงเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนริมฝั่งคลองทั้ง 3 แห่งให้ดียิ่งขึ้น
ติดตามโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์บริการชุมชน เขตสายไหม (Saimai Community Service Center) บริเวณที่จอดรถด้านหลังสำนักงานเขตสายไหม ซึ่งโครงการก่อสร้างดังกล่าวมีพื้นที่ใช้สอย ประกอบด้วย ศูนย์ฝึกอาชีพ ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ศูนย์ผู้สูงอายุ ตลาดนัดเขต ห้องสมุด ห้องประชุมสัมมนา โรงยิมกีฬา ดนตรี ลีลาศ ศิลปะ แอโรบิก ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวนหย่อมดาดฟ้า (สวน 15 นาที) สวนเกษตรดาดฟ้า ที่จอดรถยนต์ ฯลฯ ซึ่งโครงการก่อสร้างศูนย์บริการชุมชน เขตสายไหม เป็นสถานที่สำหรับทำกิจกรรมที่ทุกคนสามารถทำร่วมกันนอกบ้านได้ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในพื้นเขตสายไหมและบริเวณใกล้เคียง โดยสามารถรองรับการใช้งานของผู้คนหลากหลายประเภท ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น สร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน
เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ ชุมชนมัณฑวรรณ ซอยสายไหม 37 พื้นที่ 35 ไร่ ประชากร 357 คน บ้านเรือน 142 หลังคาเรือน เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะ ตั้งแต่ปี 2565 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ ชุมชนทิ้งขยะเศษอาหารที่ถังหมักรักษ์โลกและทิ้งขยะใบไม้ที่คอกพักขยะบริเวณลานอเนกประสงค์ และทิ้งขยะเศษอาหารที่ถังหมักรักษ์โลกตามบ้านภายในชุมชน จำนวน 11 หลังคาเรือน 2.ขยะรีไซเคิล ชุมชนรวบรวมขยะรีไซเคิลบริเวณลานอเนกประสงค์เพื่อรอนำขาย และคัดแยกขยะรีไซเคิลตามบ้านโดยแต่ละบ้านจะขายเอง 3.ขยะทั่วไป ชุมชนคัดแยกขยะรวบรวมไว้ที่จุดพักขยะบริเวณหน้าบ้าน เพื่อรอฝ่ายรักษาความสะอาดฯ ดำเนินการจัดเก็บตามรอบในวันพุธและวันเสาร์ 4.ขยะอันตราย ชุมชนรวบรวมไว้ที่จุดพักขยะอันตรายบริเวณหน้าบ้านประธานชุมชน เพื่อรอฝ่ายรักษาความสะอาดฯ ดำเนินการจัดเก็บ สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 3,360 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 840 กิโลกรัม/เดือน ขยะรีไซเคิลก่อนคัดแยก 960 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 340 กิโลกรัม/เดือน ขยะอินทรีย์ก่อนคัดแยก 2,640 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 550 กิโลกรัม/เดือน ขยะอันตรายก่อนคัดแยก 60 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 20 กิโลกรัม/เดือน ขยะติดเชื้อก่อนคัดแยก 1 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 1 กิโลกรัม/เดือน
ในการนี้มี นายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตสายไหม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตสายไหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล
#เดินทางดี #บริหารจัดการดี #สร้างสรรค์ดี #สิ่งแวดล้อมดี
—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)
