(17 ต.ค. 66) ณ ห้องอัมรินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับนายแอ็นสท์ วอล์ฟกัง ไรเชิล (H.E. Mr. Ernst Wolfgang Reichel) เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะเพื่อแนะนำตัวเนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งและหารือถึงความเป็นไปได้ในการสร้างความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครและสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย
สำหรับวันนี้ ได้มีการพูดคุยในด้านต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาเมือง ซึ่งผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า นโยบายของกรุงเทพมหานครมุ่งเน้นการพัฒนาเส้นเลือดฝอย ลงไปพัฒนาแก้ไขปัญหาในหน่วยเล็กที่สุดของชุมชนให้เข้มแข็ง เช่น สาธารณสุข สาธารณูปโภค เมื่อเข้มแข็งแล้วเส้นเลือดใหญ่คือระดับเมืองจะแข็งแรง สำหรับด้านสิ่งแวดล้อม มีการพูดคุยถึงปัญหามลพิษทางอากาศเมื่อสิ้นสุดฤดูฝนฝุ่น PM2.5 จะกลับมา ซึ่งกรุงเทพมหานครเตรียมการพร้อมรับมือแล้ว เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย ยังได้เสนอนวัตกรรมรถเก็บขยะพลังงานไฟฟ้าของเยอรมนี โดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ ให้ความสนใจและสอดรับกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ด้านวัฒนธรรม กรุงเทพมหานครมีกิจกรรมหลายอย่างที่เอื้อต่อการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตฯ มีความประสงค์จะนำบางส่วนของกำแพงเบอร์ลินมาจัดตั้งในสวนสาธารณะของกรุงเทพฯ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประวัติศาสตร์ร่วมกัน ส่วนด้านเศรษฐกิจ กรุงเทพมหานครพร้อมต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนจากเยอรมนีด้วยความยินดี
จากนั้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบกุญแจเมืองจำลองและหนังสือเรื่อง “VANISHING BANGKOK : The Changing Face of the City” แก่เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย เพื่อเป็นของที่ระลึก
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้มีความสัมพันธ์ทางการค้ากับรัฐอิสระของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีมาตั้งแต่ปี 2401 และสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2405 โดยในปี 2498 ได้ยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตขึ้นเป็นระดับเอกอัครราชทูต สำหรับความร่วมมือของทั้งสองประเทศที่ให้ความสนใจร่วมกัน อาทิ การส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนต่างตอบแทน การบริการเดินอากาศ ความร่วมมือทางวิชาการ ความร่วมมือทางวัฒนธรรม การขนส่งทางทะเล การจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจ ความร่วมมือด้านการศึกษา เป็นต้น
———-