หนุ่มขับรถจมหาย ชัชชาติสงเข้มรปภ.
วัวหายล้อมคอก! กรมทางหลวงสั่งติดตั้ง วางกั้นแบริเออร์ทันที หลังหนุ่มดวงซวย ขับรถไฟฟ้าถลำตกลงคลอง ปากซอยวิภาวดีรังสิต 28 เขตจตุจักร หวิดตายคาพวงมาลัย คืนฝนถล่มกรุงทำน้ำท่วมสูงจนแยกไม่ออก จวกไร้ป้ายบอกจุดก่อสร้าง แต่เคราะห์ดีหนีทันรอดหวุดหวิด แถมเจรจาบริษัทประกัน จบสวย ยอมจ่าย 1.1 ล้านบาทเยียวยา ด้าน “ชัชชาติ” เตรียมถกยกระดับความปลอดภัย ติดตั้งไฟส่องสว่าง ทบทวน จุดเสี่ยง ส่งหน่วยช่างกล-เทศกิจช่วยคนเดือดร้อน
กรณีโลกโซเชียลฯ โพสต์แชร์ภาพเหตุการณ์รถยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงตกคลอง บริเวณปากซอยวิภาวดีรังสิต 28 ถนนวิภาวดี รังสิต แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพฯ เมื่อคืนวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมสูง โดยคนขับซึ่งสามารถเปิดประตูว่ายน้ำหนีรอดออกมาได้อย่างหวุด หวิด ยืนยันบริเวณดังกล่าวไม่มีป้ายบอกว่าเป็นคูคลองหรือมีการก่อสร้างริมถนนแต่อย่างใด จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความสะเพร่าของผู้รับเหมาก่อสร้าง
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อช่วงเช้าวันที่ 23 ก.ค. นายสว่าง บูรณธนานุกิจ ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างทางที่ 1 กรมทางหลวง (ทล.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้รับรายงานอุบัติเหตุดังกล่าวแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เหตุเกิดบริเวณโครงการพัฒนาคูน้ำริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 (ถนนวิภาวดีรังสิต) ระยะที่ 2 ตอนที่ 2 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นถนนทางเชื่อมจะเข้าซอยวิภาวดีรังสิต 28
นายสว่าง กล่าวต่อว่า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น เพราะตามปกติแล้วในช่วงระหว่างที่ดำเนินโครง การ ทล. เน้นย้ำผู้รับจ้างในเรื่องความปลอดภัยมาโดยตลอด ต้องมีการติดตั้งป้ายเตือน ป้ายจราจร และติดตั้งแผ่นกั้น (แบริเออร์) เพื่อให้ผู้ใช้ทางระมัดระวังและป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แต่เพราะคืนนั้นฝนตกหนัก และมีน้ำท่วมขัง จึงจำเป็นต้องตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงให้ชัดเจนเสียก่อน เพื่อหาข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาด และแนวทางแก้ปัญหา เบื้องต้นทาง ทล.ได้ให้ผู้รับจ้างโครงการดังกล่าวประสานไปทางผู้เสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือและเยียวยาต่อไป
ด้านนายนพรัตน์ ทรัพย์จตุรพงศ์ อายุ 30 ปี เจ้าของรถที่ประสบเหตุ กล่าวว่า คืนเกิดเหตุกำลังเดินทางฝ่าสายฝนกลับบ้าน แต่เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว จู่ ๆ รถเหมือนตกหลุม ตอนแรกคิดว่าตรงนั้นเป็นพื้นผิวถนน เพราะระดับน้ำสูงมาก แต่พอเหยียบคันเร่งปรากฏว่ารถไม่ไปข้างหน้า ตอนนั้นรู้สึกตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ประกอบกับมีน้ำเริ่มซึมเข้ามาในห้องโดยสารจึงตัดสินใจคว้าโทรศัพท์มือถือก่อนจะออกจากตัวรถ โดยที่ไม่ได้หยิบทรัพย์สินมีค่าอื่น ๆ ออกมาด้วย หลังขึ้นมาได้ต้องยืนดูรถจมน้ำ จากนั้นจึงไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.วิภาวดี ซึ่งตำรวจนัดสอบในวันที่ 25 ก.ค.นี้ นอกจากนั้นยังได้แจ้งเหตุผ่านช่องทางแพลตฟอร์มทราฟฟีฟองดูว์ (Traffy Fondue)
นายนพรัตน์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามจากการเจรจากับบริษัทประกันภัยรถยนต์ได้รับการยืนยันว่าประกันจะคืนทุนตามกรมธรรม์ให้ทั้งหมด เป็นเงิน 1.1 ล้านบาท ซึ่งส่วนตัวพอใจการทำงานของประกันที่ได้ทำไว้ ถือว่าในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดี จึงถือเป็นกรณีแรกของรถไฟฟ้าที่ประสบอุบัติเหตุเช่นนี้ ขณะเดียวกันจนถึงเวลานี้ยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างติดต่อเข้ามาสอบถามแต่อย่างใด
ขณะที่นายพรเลิศ เพ็ญพาส ผอ.เขตจตุจักร กล่าวว่า โครงการก่อสร้างดังกล่าวอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกรมทาง หลวง สำนักงานเขตไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการแต่อย่างใด คงต้องสอบถามรายละเอียด ต่าง ๆ ไปยังกรมทางหลวงอีกครั้ง ทั้งนี้คาดว่าหลังจากนี้คงจะต้องมีการพูดคุยกับกรมทางหลวงถึงมาตรการป้องกันไม่เกิดเหตุซ้ำอีกครั้ง
ส่วนนายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ทราบว่าทางสำนักการโยธา กทม. จะมีหนังสือถึงกรมทางหลวง ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ให้มีการติดตั้งป้ายสัญญาณ หรือมีอุปกรณ์ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ และเพิ่มความระมัดระวังในการก่อสร้าง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้เส้นทางนี้ในการสัญจร ต่อไป
ต่อมาในช่วงบ่าย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกรมทางหลวง นำแบริเออร์คอนกรีตมากั้นไว้ระหว่างทางเชื่อมทางเข้าซอยวิภาวดีรังสิต 28 และบริษัทไอ ทาวเวอร์ เนื่องจากเป็นจุดที่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน ซึ่งจากการสอบถามทราบว่าเดิมทีมีแบริเออร์คอนกรีตกั้นไว้บริเวณริมถนนอยู่แล้ว แต่บริเวณทางเชื่อมเข้าซอยไม่มี เจ้าหน้าที่จึงมาตั้งเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อนอีก
เย็นวันเดียวกันนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวหลังลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุ ว่า กทม.ต้องร่วมมือกับทางกรมทางหลวงเพื่อยกระดับความปลอดภัย เน้นจุดหลักที่มีน้ำท่วมบ่อย หลังจากนี้ต้องมีการติดตั้งไฟส่องสว่าง และ กทม.เองก็ต้องกลับไปทบทวนจุดที่มีปัญหา โดยเฉพาะเส้นทางที่มีการก่อสร้าง โดยเน้นเรื่องการดูแลประชาชน หากมีฝนตกน้ำท่วมอีกอาจจะต้องมีการส่งหน่วยช่างกลลงมาดูรถของประชาชนที่เสียหาย และส่งเทศกิจมารับส่งประชาชนเข้าบ้านด้วย.
บรรยายใต้ภาพ
ล้อมคอก…นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ตรวจจุดที่เกิดเหตุปากซอยวิภาวดีรังสิต 28 หลังหนุ่มขับรถไฟฟ้าฝ่าน้ำท่วมตกคลอง (เล็กขวา) ขณะที่กรมทางหลวงขนแบริเออร์ (เล็กซ้าย) วางกั้นเพื่อป้องกันอันตราย
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 24 ก.ค. 2566