• การย้ายข้าราชการมีกระบวนการต้องดูข้อมูลเชิงลึกประกอบ
ต่อมาเป็นเรื่องจดหมายจาก ส.ก. เกี่ยวกับการย้ายข้าราชการ ทางฝ่ายบริหารไม่มีปัญหาอะไร การรับข้อติชมหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานมีมาตลอด แต่การเขียนจดหมายเป็นทางการน่าจะเป็นครั้งแรก จริง ๆ ประธานที่ปรึกษาฯ ไม่ได้มีอำนาจในการย้ายใคร การย้ายมีกระบวนการที่ชัดเจน การโยกย้ายเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ส.ก. ไม่มีอำนาจในการโยกย้าย ข้อมูลที่ได้รับถือเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจและหาข้อมูลเชิงลึกเพิ่มขึ้น ต้องไปดูว่าเป็นอย่างไรและฝ่ายบริหารก็ไม่มีอำนาจไปตรวจสอบส.ก. เป็นเรื่องที่ทางสภากรุงเทพมหานครจะดูกันเองว่าเป็นอย่างไร ทาง ส.ก. ให้ข้อมูลมาก็มีกระบวนการ มีระเบียบข้อกำหนดอยู่ นอกจากนี้เรื่องห้องทำงานของ ส.ก. ที่เขตนั้น ตามระเบียบไม่ได้มีกำหนดไว้แต่หากมีพื้นที่ ส.ก. อาจเข้าไปนั่งทำงานบ้าง แต่คงไม่ใช่ห้องส่วนตัว น่าจะอยู่ที่สถานการณ์ ผู้ว่าฯ เองก็ไม่มีห้องทำงานที่เขต
• เร่งหาพื้นให้ทำการค้าเพิ่มเติม
ส่วนเรื่องปากท้องมีนโยบายสวัสดิการของรัฐ เช่น ให้เบี้ยคนจน เป็นของรัฐบาล ต้องดูว่ารัฐบาลใหม่ให้หรือไม่ ส่วน กทม. ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายทางอ้อม เช่น การศึกษา สาธารณสุข ต้องฟรีอย่างแท้จริง อีกเรื่องคือสถานที่ทำมาหากิน เช่น บางคนรายได้น้อยไม่มีที่ในการทำมาหากิน เป็นประเด็นที่จะเร่งทำในอนาคตคือพื้นที่ของทางราชการที่สามารถแบ่งปันให้ประชาชนไปทำการค้าได้ให้มีการจัดสรรบ้างเพื่อให้ประชาชนมีที่ทำมาหากิน เป็นการช่วยหาพื้นที่ในการทำมาหากิน ช่วยทั้งผู้ซื้อให้ได้ซื้อของในราคาไม่แพงผู้ค้าสามารถขายของได้
• ถอดบทเรียนเลือกตั้ง ส.ส. เตรียมเสนอ กกต. เป็นแนวทางจัดเลือกตั้งครั้งต่อไป
เรื่องการถอดบทเรียนเลือกตั้ง ส.ส. ที่เห็นคืองบประมาณอาจมาช้า ซึ่งอันนี้คงคุยกันได้ ส่วนอีกเรื่องคือการเลือกตั้งล่วงหน้าที่จัดตามเต็นท์ มีข้อแนะนำว่าถ้าเป็นไปได้อนาคตหาพื้นที่ใหญ่ ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าที่มีระบบปรับอากาศ มีที่จอดรถ ระบบขนส่งมวลชนเข้าถึง ประชาชนน่าจะได้ประโยชน์มากขึ้น อย่างจัดที่ห้างตรงสยามสแควร์ หรือพารากอน สามารถเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้า และมีที่จอดรถยนต์ ส่วนที่รามคำแหงเป็นหน่วยแบบเต็นท์ มีคนเป็นลม เดินทางเข้าถึงยาก ที่จอดรถไม่มี ก็อาจต้องมีการปรับปรุง และจะเสริมเรื่องการติดตั้งกล้อง CCTV ออนไลน์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และหากเป็นไปได้ในอนาคตมีออแกไนซ์มาจัดเลือกตั้งล่วงหน้าได้จะดี เนื่องจากต้องใช้โต๊ะนักเรียน ทำให้นักเรียนต้องหยุดเรียน เป็นรายละเอียดที่จะเสนอทาง กกต. ต่อไป
• จับปรับผู้ทำผิดเกี่ยวกับกัญชาและอุปกรณ์ sex toy
ส่วนสถานการณ์กัญชาในพื้นที่ตอนนี้ดีขึ้น ที่ผ่านมาเทศกิจได้ใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องจับปรับผู้ที่ทำผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายกัญชาเคลื่อนที่ประมาณ 50 กว่าราย ส่วนร้านต่าง ๆ ได้มีการประสานความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข และกรมแพทย์แผนไทยในการดำเนินการ ได้พยายามทำในกรอบที่สามารถทำได้ นอกจากกัญชาก็จะมีการขายพวกอุปกรณ์ sex toy ซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายและดูไม่ดีต่อภาพลักษณ์ของเมือง เทศกิจก็ได้ลงพื้นที่ดำเนินการ เช่น บริเวณสุขุมวิท ทองหล่อ ได้มีการจับไปแล้วกว่า 10 ราย
• เร่งเปลี่ยนไฟฟ้าส่องสว่างถนนและริมคลอง
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการแก้ไขปัญหาไฟฟ้าส่องสว่างในกรุงเทพฯ นั้น ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้ดำเนินการเปลี่ยนไฟฟ้าแสงสว่างที่ชำรุดไปแล้วกว่า 20,000 ดวง โดยเปลี่ยนเป็นหลอด LED และมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ในส่วนถนนสายหลักมีกำหนดที่จะเปลี่ยน 5,000 ดวง กทม. เปลี่ยนไปแล้วประมาณ 2,500 ดวง ส่วนถนนย่อยมีกำหนดเปลี่ยน 20,000 ดวง ดำเนินการเสร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะนี้กทม. ให้ความสำคัญกับทางเดินริมคลองซึ่งปัจจุบันทางเดินริมคลองเป็นทางเดินทางสัญจรที่สำคัญของคนกรุง ซึ่งมีไฟฟ้าอยู่ประมาณ 10,000 ดวง ไฟดับอยู่ประมาณ 3,000 ดวง จึงได้สั่งการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน พร้อมเพิ่มเติมไฟฟ้าแสงสว่างในจุดที่ยังขาดแคลน
• ถอดบทเรียน Bangkok Pride 2023 พร้อมขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในส่วนของประเด็นปัญหาเรื่องการจัดพาเหรด Bangkok Pride 2023 ที่ได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี งานที่ผ่านมาสร้างความสุขให้กับทุกคนและจุดประกายในเรื่องของความเท่าเทียม การยอมรับความแตกต่างหลากหลายของแต่ละคน ที่ไม่ใช่เฉพาะเรื่องเพศแต่รวมถึงเรื่องแนวความคิดและความพิการ ซึ่งบ่ายนี้จะให้รองฯ ศานนท์ ไปถอดบทเรียนจากการจัดงานที่ผ่านมา ว่ามีปัญหาอย่างไรบ้างเพื่อนำไปแก้ไข เข้าใจว่าปัญหาเกิดจากมีนักศึกษามาแสดงผลงานแล้วมีคนร่วมงานมากจนไปเบียดผลงานของนักศึกษาเสียหาย ซึ่งเป็นอีกมิติหนึ่งที่สะท้อนถึงปัญหาจึงต้องฝากขอโทษน้อง ๆ ในโอกาสนี้ด้วย ที่ กทม. บกพร่องในการกำกับดูแล โดยจะนำปัญหาทั้งหมดมาถอดบทเรียน เพื่อให้การจัดงานสมบูรณ์พร้อมสำหรับการมุ่งสู่ Bangkok World Pride 2028
• เร่งแก้ปัญหาบุคลากรขาดแคลน
ในส่วนของเรื่องการบริหารงานบุคลากรที่ขาดแคลนซึ่งเป็นกำลังสำคัญของ กทม. 2 หน่วยงาน คือ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนั้น ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวมานานแล้ว ขณะนี้ได้เพิ่มอัตรากำลังคนที่ขาดแคลน ซึ่งปัญหาแบ่งเป็น 2 ส่วน คืออัตรากำลังขาดแคลนและการสื่อสารกันที่คลาดเคลื่อน ขณะนี้ได้เร่งปรับการดำเนินการและปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากการเปิดสอบในตำแหน่งดังกล่าวแล้ว ไม่มีคนมาสมัครสอบ หรือสอบแล้วไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ซึ่ง กทม. ก็จะเร่งดำเนินการสรรหาบุคลากรให้เพียงพอในอัตราที่ขาดแคลนให้เร็วที่สุด