(10 พ.ย.65) เวลา 14.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เขตบางแค เพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย สำรวจสวน 15 นาที พื้นที่ว่างหมู่บ้านชัชฎาวิลล่า แปลงที่ 1 พื้นที่ 1 ไร่ 22 ตารางวา และแปลงที่ 2 พื้นที่ 1 ไร่ เขตฯ จะปรับปรุงพื้นที่ว่างเปล่าจัดทำสวน ทางเดินออกกำลังกาย เพื่อการเข้าถึงของประชาชนในหมู่บ้านภายในระยะ 800 เมตร หรือระยะการเดิน 10-15 นาที ส่วนสวนเพชรกาญจนารมย์ พื้นที่ 25 ไร่ ภายในสวนปลูกต้นประดู่ ต้นอินทนิล ต้นมะขาม ต้นหางนกยูง ต้นมะพร้าว ต้นมะฮอกกานี ต้นนนทรี ต้นขาฮกเกี้ยน ต้นทองอุไร ต้นโมก ต้นเข็ม เขตฯ ตัดแต่งกิ่งไม้ ดูแลบำรุงรักษาต้นไม้ให้อยู่ในสภาพร่มรื่นสวยงาม
ตรวจเยี่ยมศูนย์บริหารราชการ ฉับไวใสสะอาด (Bangkok Fast & Clear : BFC) เขตบางแค เป็นการพัฒนารูปแบบการให้บริการของกรุงเทพมหานคร โดยนำงานบริการของ 10 ฝ่ายในสำนักงานเขต มาให้บริการรวมกันที่จุดเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มารับบริการและติดต่อราชการกับกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันเขตฯ เปิดให้บริการ 6 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายทะเบียน ฝ่ายรายได้ ฝ่ายคลัง ฝ่ายโยธา ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล และฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม สำหรับปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน พบว่าพื้นที่บางฝ่ายมีขนาดเล็กคับแคบ ไม่สะดวกในการรองรับผู้รับบริการ เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอกับปริมาณงานในปัจจุบัน ควรมีระบบออนไลน์ เชื่อมโยงทุกงานและสามารถดำเนินการปฏิบัติงานของตนเองได้ ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการแก้ปัญหา เพื่อให้การบริการประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เยี่ยมชมต้นแบบคัดแยกขยะ ชุมชนเลียบคลองบางแค ลักษณะเป็นชุมชนแออัด พื้นที่ 12 ไร่ บ้านเรือน 49 หลัง ประชากร 368 คน วิธีการตัดแยกขยะโดยจำแยกตามประเภทของขยะ คัดแยกขยะรีไซเคิล ออกจากมูลฝอยทั่วไป และแยกประเภทกระดาษโดยละเอียด รวมทั้งการแยกเศษอาหารนำไปเลี้ยงปลาและทำปุ๋ยหมัก สำหรับปริมาณขยะก่อนดำเนินการวันละ 260 กก./วัน หลังดำเนินการคงเหลือ 208 กก./วัน เขตฯ เข้าจัดเก็บขยะ 3 ครั้ง/สัปดาห์ ด้วยรถเก็บขนมูลฝอยแบบอัด ขนาด 5 ตัน ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวขอบคุณประชาชนที่มีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะ นำเศษอาหารไปเลี้ยงปลาและทำปุ๋ยหมัก สร้างรายได้แก่ครอบครัวและชุมชน โดยให้เขตฯ นำไปเป็นต้นแบบคัดแยกขยะแก่ชุมชนในพื้นที่ต่อไป
จากนั้นติดตามการตรวจวัดควันดำบริเวณแยกทศกัณฑ์ เขตฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้เครื่องตรวจวัดควันดำและเครื่องตรวจวัดระดับเสียงปลายท่อไอเสียรถยนต์ สำหรับค่ามาตรฐานควันดำ ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าควันดำของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด พ.ศ.2564 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 13 เมษายน 2565 กำหนดค่ามาตรฐานควันดำต้องไม่เกินร้อยละ 30 ด้วยเครื่องมือวัดระบบความทึบแสง และต้องไม่เกินร้อยละ 40 ด้วยเครื่องมือวัดระบบกระดาษกรอง ส่วนค่ามาตรฐานเสียง ระดับเสียงปลายท่อไอเสียรถยนต์ ไม่เกิน 100 เดซิเบล พร้อมทั้งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผู้ใช้รถยนต์ ให้หมั่นตรวจสอบสภาพรถให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ และมีค่าควันดำที่ไม่เกินมาตรฐาน เพื่อร่วมกันลดมลพิษ ลดฝุ่น PM2.5
ในการลงพื้นที่วันนี้มี คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตบางแค สำนักเทศกิจ สำนักการโยธา สำนักสิ่งแวดล้อม ชาวชุมชนเลียบคลองบางแค และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล
#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี #บริหารจัดการดี
—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)