กทม.จ้างคนพิการทำงานแล้วกว่า 300 อัตรา ปรับขยายงานออนไลน์ คาด มี.ค.นี้ จ้างเพิ่มให้ทำงานที่บ้านได้
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการของกรุงเทพมหานคร ว่า ปัจจุบัน กทม.จ้างคนพิการทำงานแล้วประมาณ 300 คน จากอัตรากำหนดประมาณ 600 คน ปัญหาที่พบคือ อุปสรรคในการเดินทางมาทำงานของผู้พิการ ซึ่ง กทม. กำลังแก้ไข โดยกำหนดแนวทางให้ผู้พิการทำงานที่บ้าน พร้อมกำหนดลักษณะงานให้เหมาะสม เช่น เป็นผู้ให้คำปรึกษาแนะนำประสานงานระหว่างประชาชนกับสำนักงานเขตผ่านโทรศัพท์หรือ ช่องทางออนไลน์ คาดจะเริ่มดำเนินการภายในเดือนมีนาคมนี้ รวมถึงมีการร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อพัฒนาระบบรวบรวมช่องทางสื่อสารออนไลน์ใน ทุกเขต และทุกสำนักของกทม.ไว้ในช่องทางเดียวกัน เพื่อให้คนพิการที่ผ่านการอบรมแล้ว ทำหน้าที่ตอบคำถาม ให้ข้อมูลต่างๆ กับประชาชนที่ติดต่อ โดยระบบดังกล่าวจะเสร็จในเดือนเมษายนนี้ นอกจากนี้ กำลังจัดหลักสูตรร่วมกับภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมคนพิการให้สามารถทำงานเขียนโปรแกรมได้ เชื่อว่า เป็นงานที่คนพิการสามารถทำได้ดี
“การรับคนพิการเข้าทำงานคำนึงถึงศักยภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ควรเป็นงานที่เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานหรือองค์กร เพื่อให้รู้คุณค่าในตัวเอง ที่ผ่านมาการจ้างคนพิการมาชงกาแฟหรือทำเอกสารอย่างเดียวไม่มีความหมาย ทั้งที่ศักยภาพแต่ละคนอาจมีมากกว่านั้นและแตกต่างกันไป” นายศานนท์ กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบัน กทม. มีการจ้างงานคนพิการในสำนักพัฒนาสังคมและ 50 สำนักงานเขต แบ่งเป็น 8 ประเภทความพิการ ประกอบด้วย 1.การมองเห็น 2.การได้ยินหรือสื่อความหมาย 3.การเคลื่อนไหวหรือทางกาย 4.จิตใจหรือพฤติกรรม 5.สติปัญญา 6.การเรียนรู้ 7.ออทิสติก และ 8.พิการซ้อน (พิการมากกว่า 1 ประเภท)
ด้านนายธนิต ตันบัวคลี่ รองผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครโดยสพส.ได้จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมทักษะอาชีพสำหรับคนพิการในโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานครหนองจอก และโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (อาทร สังขะวัฒนะ) เขตทุ่งครุ เพื่อให้ความรู้ด้านทักษะอาชีพแก่คนพิการ ในการประกอบอาชีพ เพิ่มรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยมี 5 หลักสูตร ได้แก่ การผลิตเห็ดเพื่อการค้า, การออกแบบเว็บไซต์, คอมพิวเตอร์ เบื้องต้น, เครื่องดื่มตามสมัยนิยม (บาริสต้าเบื้องต้น) และการเพาะต้นอ่อนพืชออร์แกนิก ปัจจุบันมีผู้พิการเข้าเรียน จำนวน 94 คน ทั้งนี้ กทม.ได้ประสานกับภาคเอกชนในการจัดทีมอบรม Job Coach ให้กับคนพิการทางจิตใจหรือพฤติกรรมควบคู่กับการฝึกอาชีพ ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของคนพิการ และประสานกับสถานประกอบการให้เตรียมความพร้อมให้กับคนพิการด้านต่างๆ ประกอบกับฝึกอบรมปรับบุคลิกภาพคนพิการให้เหมาะสมพร้อมเข้าสู่ระบบงาน โดยทีม Job Coach จะติดตามการทำงานในระยะแรก และเป็นที่ปรึกษาปัญหาคอยประสานระหว่างองค์กรกับผู้พิการ
นอกจากนี้ อาจมีการปรับเปลี่ยนงาน บางอย่างให้เหมาะสม เช่น งานห้องสมุด ซึ่งคนพิการ บางประเภทออกจากบ้านเองไม่ได้ ในอนาคต อาจปรับเปลี่ยนเป็นห้องสมุดออนไลน์มากขึ้น มีการยืมหนังสือออนไลน์ คนพิการก็สามารถทำงานบริการประชาชนที่บ้านได้ ทั้งต้องมีการ Workshop ต่อเนื่องต่อไป
ที่มา: นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 21 มี.ค. 2566