(12 ม.ค.66) เวลา 14.30 น. : นายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าประชุมหารือกับกรมการขนส่งทางบกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการทำงานร่วมกันเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง pm2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยมี นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายกิจจา สมสุข ผู้อำนวยการกองตรวจการขนส่งทางบก นางจันทร์ทิพย์ มากคำ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการเดินรถ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นางสาวศนิ จิวจินดา ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมอาคารศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีการขนส่งทางถนน(อาคาร 10) ห้อง 108 เขตจตุจักร
กรุงเทพมหานคร(กทม.) ประชุมร่วมกับกรมการขนส่งทางบก และ ขสมก. เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง pm2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งประกอบด้วย การใช้ระบบ Traffy Fondue เพื่อแก้ไขปัญหาหลังจากได้รับข้อร้องเรียนหรือแจ้งเหตุรถประจำทางปล่อยควันดำ และหารือเรื่องการเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับระบบ Open Data ของ กทม. ซึ่งในปัจจุบันการรับเรื่องร้องเรียนของกรมการขนส่งทางบก มีจำนวน 10 ช่องทาง ได้แก่
1. สายด่วน 1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ
2. Facebook “1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ”
3. Line ID “1584DLT”
4. แอปพลิเคชัน taxi ok
5. แอปพลิเคชัน DLT GPS
6. Website กรมการขนส่งทางบก http://www.dlt.go.th และ http://ins.dlt.go.th/cmpweb
7. อีเมล [email protected]
8. ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐ gecc
9. ส่งจดหมาย/หนังสือร้องเรียน และ
10. การร้องเรียนด้วยตนเอง
จากการประชุมหารือในวันนี้ กรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของกทม.ในการใช้ระบบ Traffy Fondue เชื่อมโยงกรณีร้องเรียนจากประชาชนให้สามารถประสานงานการแก้ไขปัญหากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ได้หารือถึงแผนงานบูรณาการการลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกร่วมกันที่ต้นทาง สำหรับเป็นเชิงป้องกันและส่งเสริมผู้ประกอบการ อาทิ การบูรณาการร่วมกับ กรมควบคุมมลพิษ กทม. และ บกจร. ออกตรวจวัดควันดำรถบนถนนตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกบริเวณที่มีค่ามลพิษสูงในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลโดยมีกองตรวจการขนส่งทางบกจัดชุดผู้ตรวจการ จำนวน 16 ชุด ออกตรวจวัดควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลร่วมกับกทม. การเพิ่มการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบแพล้นปูนที่เป็นแหล่งกำเนิดฝุ่นในกรุงเทพฯ พร้อมประชาสัมพันธ์แจกโปสเตอร์ แผ่นพับให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) และวิธีดูแลป้องกัน พร้อมกำชับให้แพล้นท์ปูนดำเนินการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเข้มขัน ทำความสะอาดล้อรถบรรทุกปูนซีเมนต์ก่อนออกจากแพล้นปูน เพื่อป้องกันเศษปูนตกหล่นบนผิวจราจร รวมถึงเข้มข้นการกำชับให้รถของทางราชการและรถโดยสารเข้ารับการตรวจสภาพรถยนต์เพื่อตรวจวัดปริมาณควันดำและล้างท่อไอเสียเพื่อลดมลพิษ PM2.5 อย่างน้อย 2 ครั้ง/ปี พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการลดควันดำและสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน ในการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดควันดำด้วยตนเองวิธีการและแนวทางปฏิบัติที่ต้องดำเนินการของรถหลังจากถูกคำสั่ง “ห้ามใช้” การส่งเสริมการใช้รถพลังงานสะอาดผ่านมาตรการทางภาษี และการให้ความสำคัญในการนำรถไปตรวจสภาพกับ ตรอ. และตระหนักถึงพิษภัยจากควันดำและฝุ่น PM2.5 และมีส่วนร่วมในการลดปริมาณควันดำและฝุ่น PM2.5 จากท่อไอเสียของรถด้วยตนเอง
ทั้งนี้ กทม.ได้มีการเสนอแผนให้รถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไปและรถพ่วงที่ได้รับหนังสืออนุญาตผ่อนผันจากเจ้าพนักงานจราจร สามารถเดินรถได้ตลอดเวลาไม่จำกัดเวลาการเดินรถเพื่อลดปัญหาการจราจรแออัดเพื่อลดฝุ่น PM2.5 บนถนน 17 สายในกรุงเทพฯ ซึ่งจะร่วมกันพิจารณากับกรมการขนส่งทางบกต่อไป นอกจากนี้กรมการขนส่งทางบกกับขสมก.ได้มีแผนการเพิ่มรถยนต์ไฟฟ้า EV ในการให้บริการประชาชน โดยในขณะนี้มีรถร่วมบริการ EV ประมาณ 1 พันคัน ใน 77 เส้นทาง รวมถึงการใช้มาตรการด้านภาษี ด้วยการลดภาษีให้ผู้จดทะเบียนรถ EV ส่วนรถเก่า 6-10 ปีจะไม่ลดภาษีให้เนื่องจากก่อมลพิษสูง เพื่อเป็นการจูงใจและสนับสนุนให้เกิดการใช้ EV เพิ่มมากขึ้น เป็นการลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในกรุงเทพฯอีกด้วย
#สิ่งแวดล้อมดี
#สุขภาพดี