(15 มิ.ย.67) เวลา 15.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการซ้อมริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ของกรุงเทพมหานครจากหอศาสตราคม ในพระบรมมหาราชวัง ไปยังกระทรวงมหาดไทย โดยมีประธานสภากรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหัวหน้าหน่วยงาน หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดสำนักปลัดกรุงเทพมหานคร และข้าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมการซ้อม ณ ห้องบางกอก ชั้นบี 2 อาคารไอราวัตพัฒนา และลานพระอินทร์ทรงช้าง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง
ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 รัฐบาลได้ดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีพิธีสำคัญที่กรุงเทพมหานครร่วมดำเนินการ คือ การจัดพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อทูลเกล้าฯ ถวาย ซึ่งเป็นราชประเพณีที่มีมาแต่โบราณ รัฐบาลได้มอบหมายกระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานครเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศ 77 จังหวัด 108 แหล่งน้ำ และอัญเชิญไปรวมไว้ที่ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทยก่อนที่จะจัดพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์รวมที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ณ พระบรมมหาราชวัง ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครมีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1 แห่ง ได้แก่ น้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากหอศาสตราคม ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งได้กำหนดจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ และจัดริ้วขบวนอัญเชิญไปส่งมอบให้กระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2567
“ขอให้ทุกท่านภาคภูมิใจที่ได้ร่วมในพระราชพิธีอันสำคัญในครั้งนี้ ซึ่งโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยครั้ง จึงขอให้ทุกคนตั้งใจทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้การจัดริ้วขบวนอัญเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สง่างาม สมพระเกียรติยศ เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
สำหรับในส่วนของกรุงเทพมหานคร จัดให้มีการซ้อมการเดินริ้วขบวนฯ ในวันที่ 15, 22 และ 29 มิถุนายน 2567 ณ ลานพระอินทร์ทรงช้าง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง และสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น เขตดินแดง โดยจะมีการซ้อมใหญ่เสมือนจริง ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2567 จากหอศาสตราคม ในพระบรมมหาราชวัง ไปยังกระทรวงมหาดไทย
————
