นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร (Chief Sustainability Officer) เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้มีร้านอาหารในกรุงเทพฯ ทั้งหมด 1,059 แห่ง (เฉพาะร้านเดี่ยว ไม่รวมที่อยู่ในห้าง) ที่ร่วมโครงการ “ไม่เทรวม” และรวมกันแล้วสามารถแยกขยะเศษอาหารได้ วันละ 39,581 กิโลกรัม (หรือวันละเกือบ 40 ตัน) ที่ผ่านมาจะเป็นแหล่งกำเนิดใหญ่ๆ ที่ทำเรื่องคัดแยกขยะได้ดี แต่ข้อมูลนี้พบว่าร้านอาหารเล็กๆน้อยๆ ก็ร่วมกันทำให้สามารถแยกและลดขยะไปกำจัดได้อย่างมาก
ในภาพรวมสามารถแยกเศษอาหารได้แล้ว วันละ 277 ตัน หรือ รวมทั้งหมด 8,587 ตัน เฉพาะในเดือนเมษายน ซึ่งเกินกว่าเป้าปี 2567 ที่ตั้งไว้ที่วันละ 200 ตัน สำหรับร้านอาหาร 1,059 แห่งนี้ สามารถแบ่งวิธีการจัดการเศษอาหารได้ด้วย เช่น สำนักงานเขตจัดเก็บและนำไปใช้ประโยชน์ (ทำปุ๋ย/น้ำหมัก/ส่งเกษตรกร) 23.6% สำนักงานเขตประสานเกษตรกรมารับตรงที่ร้าน 76% ร้านทำปุ๋ยหมักเอง 0.4%
นายพรพรหม กล่าวว่า วันนี้ขยะทุกชิ้นมีทางไปแล้วถ้าสามารถจัดการอย่างถูกวิธี เห็นได้ชัดว่าเมื่อร้านอาหารเหล่านี้แยกเศษอาหาร ซึ่งถือเป็นการคัดแยกขยะที่ยากที่สุดแล้ว ขยะที่เหลือที่เป็นขยะแห้งส่วนมากจะขายได้ โดยประสานให้ร้านที่รู้จักกับผู้รับซื้อที่ซึ่งเป็นเครือข่ายกับ กทม. มารับซื้อไป เพื่อเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน และปัจจุบันยังมาภาคีอีกหลายรายที่พร้อมรับขยะกำพร้ามูลค่าต่ำ เช่น ถุงแกง ซองขนม/กาแฟ ไปทำเป็นเชื้อเพลิงต่อด้วย
#สิ่งแวดล้อมดี #ไม่เทรวม
—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)