สำหรับทีมที่ได้รับรางวัลมีดังนี้ ผลการดำเนินงานชุมชนร่วมใจระวังภัยยาเสพติด ประเภทดีเด่น ได้แก่ ชนะเลิศชุมชนพัฒนาบึงขวาง เขตมีนบุรี รับเงิน 25,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 ชุมชนซอยเปี่ยมสุข พระโขนง 20,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 ชุมชนเคหะสถานเจริญชัย เขตจตุจักร 15,000 บาท ชมเชย 2 รางวัล รับเงิน 10,000 บาท ชุมชนหมู่บ้านกิตตินิเวศน์ เขตบางกะปิ และชุมชนคลองบางน้อย เขตตลิ่งชัน
ผลการดำเนินงานของชุมชนร่วมใจระวังภัยยาเสพติด ประเภทรักษามาตรฐาน ได้แก่ ชนะเลิศ ชุมชนทัดชาวิลล่า เขตดอนเมือง รับเงิน 15,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 ชุมชนทับแก้ว เขตห้วยขวาง 12,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 ชุมชนริมคลองประเวศฝั่งเหนือ เขตประเวศ 10,000 บาท ชมเชย 2 รางวัล รับเงิน 8,000 บาท ชุมชนเลียบคลองบางแค เขตบางแค และชุมชนมีนบุรีอุปถัมภ์ เขตมีนบุรี
ผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาและสารเสพติดในโรงเรียนระดับประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร ประเภทดีเด่น ได้แก่ ชนะเลิศ โรงเรียนอำนวยกนกศิริอนุสรณ์ เขตบางนา รับเงิน 25,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 โรงเรียนสุเหร่าทรายกองดิน เขตมีนบุรี 20,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 โรงเรียนวัดกัลยาณมิตร เขตธนบุรี 15,000 บาท ชมเชย 2 รางวัล รับเงิน 10,000 บาท โรงเรียนพูนสิน (เพชรสุขอุปถัมภ์) เขตพระโขนง และโรงเรียนแสงหิรัญวิทยา เขตลาดกระบัง
ผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาและสารเสพติดในโรงเรียนระดับประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร ประเภทรักษามาตรฐาน ได้แก่ ชนะเลิศ โรงเรียนวัดยางสุทธาราม ขตบางกอกน้อย รับเงิน 15,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 โรงเรียนหมู่บ้านเกาะโพธิ์ เขตบางขุนเทียน 12,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 โรงเรียนอิสลามลำไทร เขตหนองจอก 10,000 บาท
หน่วยงานที่ได้รับรางวัลผลงานดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของกรุงเทพมหานคร แบ่งเป็น 1. สำนักงานเขตดีเด่น ได้แก่ สำนักงานเขตพระโขนง สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ สำนักงานเขตลาดพร้าว สำนักงานเขตทวีวัฒนา 2. ศูนย์บริการสาธารณสุขและส่วนราชการสังกัดสำนักอนามัยดีเด่น ด้านการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข 29 ช่วงนุชเนตร ศูนย์บริการสาธารณสุข 40 บางแค สถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด (บ้านพิชิตใจ) สำนักงานป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด และ 3. ศูนย์บริการสาธารณสุขและส่วนราชการสังกัดสำนักอนามัยดีเด่น ด้านการป้องกันการติดยาเสพติด ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข 23 สี่พระยา ศูนย์บริการสาธารณสุข 60 รสสุคนธ์ มโนชญากร และศูนย์บริการสาธารณสุข 61 สังวาลย์ ทัสนารมย์
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากสถิติข้อมูล 3-5 ปีที่ผ่านมามีปัญหายาเสพติดเพิ่มขึ้นมาก หัวใจของการทำงานด้านนี้ น่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนในชุมชนสามารถทำให้ตัวเองมีภูมิคุ้มกัน ปลอดภัย และเข้าใจเรื่องเหล่านี้ งานนี้ไม่สามารถสำเร็จได้ถ้าคนในชุมชนไม่ช่วยกันทำให้มีความแข็งแรง น้อง ๆ ที่มาในวันนี้ถือเป็นกำลังสำคัญ บางทีเด็กอาจเป็นแบบอย่างให้ผู้ใหญ่ได้ บางทีอาจเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ในการสร้างสังคมดี ๆ ให้กับเด็ก ๆ ที่กำลังสอนอะไรบางอย่างในอนาคต ถ้าพูดถึงกรุงเทพมหานครในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำเองไม่ได้ ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดพยายามอย่างมากในการทำงานด้านยาเสพติด เช่น การดูแลบำบัด การดูแลป้องกัน ฯลฯ ต้องทำอย่างไรให้ชุมชนเข้มแข็ง
รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กรุงเทพมหานครได้พูดคุยกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด แล้ว กำลังจะไป บชน. ปปส. กรมราชทัณฑ์ กระทรวงแรงงาน และภาคส่วนวิชาการ จะเปิดข้อมูลให้กันและกันเพื่อให้เห็นข้อมูลระหว่างกันทั้งหมด เรามีข้อมูลชุมชนเสี่ยง ชุมชนรอบนอกการเป็นทางผ่านของยาเสพติด ชุมชนรอบในที่เป็นแหล่งของการติดยาเสพติด การมีสภาพทางสังคมและเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อทำงานอย่างไร จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันหมด และพรุ่งนี้ (23 มิ.ย. 66) สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร จะเป็นหน่วยงานหลักในการออกแบบขั้นตอนการทำงานของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ซึ่งศูนย์ฟื้นฟูฯ ต้องไม่ใช่แค่นำเขากลับคืนสู่สภาพสังคม การทำสภาพแวดล้อมที่เขาจะกลับเข้าไปยินดีต้อนรับเขาด้วย ศูนย์ฝึกอาชีพ การทำความเข้าใจ เป็นการสร้างสังคมที่มีความสุข ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าภูมิคุ้มกันนี้แทรกซึมเข้าไปในการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคนได้ น่าจะเป็นสุดยอดปรารถนาของการทำงานด้านยาเสพติด
กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดการแสดงสร้างสรรค์ป้องกันยาเสพติดจากนักเรียน การแสดงบูธนิทรรศการซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชน อาสาสมัครฯ และหน่วยงานภาคี ได้เผยแพร่ผลงาน แสดงศักยภาพของตนเองในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด สำหรับวันนี้มีผู้แทนหน่วยงานภาคีเครือข่าย ผู้อำนวยการเขต ชุมชนร่วมใจระวังภัยยาเสพติด อาสาสมัครกรุงเทพมหานครเฝ้าระวังภัยและยาเสพติด นักเรียนระดับประถมศึกษาในโรงเรียน สังกัดกรุงเทพมหานคร และผู้เกี่ยวข้อง รวม 200 คน เข้าร่วมงาน
———————————-(พัทธนันท์…สปส. รายงาน)