(12 เม.ย. 66) เวลา 14.00 น. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีสวดพระปริตรรามัญเสกน้ำพระพุทธมนต์ ณ ปะรำประกอบพิธี ลานคนเมือง โดยภายหลังพิธี ได้เปิดให้ประชาชนเข้าอุโมงค์น้ำมนต์และรับน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากพิธีดังกล่าวได้ ส่วนในวันที่ 13 และ 14 เม.ย. จะแบ่งรอบการแจกน้ำมนต์ ออกเป็นวันละ 5 รอบ คือ เวลา 13.00 น. 14.00 น. 15.00 น. 16.00 น. และ 17.00 น. โดยแจกรอบละ 599 ขวด
คำว่า “ปริตร” (สันสกฤต: ปริตฺร // บาลี: ปริตฺต) แปลว่า เครื่องป้องกันรักษา เครื่องคุ้มครอง การสวดพระปริตร จึงหมายความว่า การสวดเพื่อคุ้มครองป้องกันภยันตราย สำหรับประเพณีพระสงฆ์รามัญสวดพระปริตรทำน้ำพระพุทธมนต์ เป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีมาแต่โบราณกาล ตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพระนิพนธ์ “ตำนานพระปริต” ไว้ว่า “การสวดพระปริตทำน้ำพระพุทธมนตร์ถือเป็นการสำคัญในราชประเพณีอย่างหนึ่ง มีตำแหน่งพระครูพระปริตไทย 4 รูป พระครูพระปริตมอญ 4 รูป สำหรับสวดทำน้ำพระพุทธมนตร์ ในบรรดางานพระราชพิธีซึ่งมีสรงมุรธาภิเษก พระราชาคณะไทยรูป 1 มอญรูป 1 กับพระครูพระปริต 8 รูปนั้น สวดทำน้ำพระพุทธมนตร์สำหรับสรงมุรธาภิเษกทุกงาน และโดยปกติ พระครูพระปริตมอญต้องเข้ามาสวดทำน้ำมนตร์ที่หอศาสตราคมทุกวัน”
สำหรับตำแหน่งพระครูปริตรรามัญ 4 รูป แต่เดิมจำพรรษาอยู่วัดต่าง ๆ ที่สังกัดอยู่ในคณะรามัญนิกาย เช่น วัดบวรมงคล วัดราชคฤห์ วัดชนะสงคราม เป็นต้น ต่อมาภายหลังได้เปลี่ยนแปลงเป็นพระสงฆ์มอญจากวัดชนะสงครามเพียงอารามเดียว โดยตำแหน่งพระครูปริตรรามัญทั้ง 4 รูป ประกอบด้วย 1. พระครูราชสังวร 2. พระครูสุนทรวิลาส 3. พระครูราชปริต 4. พระครูสิทธิเตชะ ซึ่งตำแหน่งทั้งหมดนี้ ปัจจุบันเป็นตำแหน่งประจำอยู่ที่วัดชนะสงคราม รับหน้าที่เข้าไปสวดพระปริตรทำน้ำพระพุทธมนต์ในพระบรมมหาราชวังเรื่อยมา
การจัดพิธีสวดพระปริตรรามัญเสกน้ำพระพุทธมนต์ในครั้งนี้ เป็นการจัดขึ้นครั้งแรกในการจัดเทศกาลมหาสงกรานต์ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งกรุงเทพมหานครได้นิมนต์พระสงฆ์มอญที่มีตำแหน่งเป็นพระครูปริตรรามัญมาสวดด้วยรามัญวิธี พร้อมเสกน้ำพระพุทธมนต์ในคราวเดียวกัน โดยจะมีการนำมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากพิธีดังกล่าวมาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เข้าร่วมงานเทศกาลมหาสงกรานต์กรุงเทพมหานคร ณ บริเวณลานคนเมือง เพื่อเป็นสิริสวัสดิมงคลแก่ชีวิตรับปีใหม่ไทยสืบไป
——————————