(9 พ.ย. 65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “APEC 2022 Thailand : Showcase at ICONSIAM” ซึ่งมีนายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมเป็นประธานเปิดงาน ณ เจริญนคร ฮอลล์ ชั้น M ไอคอนสยาม เขตคลองสาน
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ทาง กทม. รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดประชุมระดับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค “APEC 2022 Thailand” โดยเฉพาะงาน Showcase ที่ไอคอนสยามแห่งนี้ งานประชุมเอเปคเป็นงานสำคัญระดับโลกที่ห่างจากเมืองไทยไปเกือบ 20 ปี โดยไทยเคยเป็นเจ้าภาพเมื่อปี ค.ศ. 2003 ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้เป็นการเปิดเมืองหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดได้คลี่คลายลง มีมิติสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและประชาคมโลกเห็นว่าเราพร้อมแล้ว
นอกจากนี้ยังมีความสำคัญใน 2 ส่วน ส่วนแรก ทำให้เราเห็นและเข้าใจว่าเอเปคคืออะไร ถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้หาข้อมูลให้พร้อม ได้ทำความเข้าใจประโยชน์ของการประชุมซึ่งมีมากมายหลายประการ อาทิ การที่มี 21 เขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมารวมตัวกัน ทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างมหาศาล
ส่วนที่สอง ความรู้เกี่ยวกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งเป็นเทรนด์ของโลกที่ไม่ว่าจะมีการประชุมเอเปคหรือไม่ก็ยังเป็นเทรนด์ที่สำคัญ โดยนิทรรศการที่นำมาแสดงในวันนี้ก็เป็นนวัตกรรมที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการประชุมเอเปค ซึ่ง กทม. ก็มีนวัตกรรมทางสุขภาพจากโรงพยาบาลตากสินมาร่วมแสดงด้วย โดยเป็นการสะท้อนถึงความพร้อมในการดูแลสุขภาพให้กับพี่น้องประชาชน
“กทม.พร้อมที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในการเป็นเจ้าภาพและแสดงไมตรีจิตที่ดีต่อมิตรผู้มาเยือน อยากจะฝากให้ทุกคนร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีต่อผู้ที่จะมาเยือนด้วย ต้องขอขอบคุณผู้จัดงานนี้และหวังว่างานนี้จะประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ทุกประการ” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
สำหรับผู้ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงานวันนี้ ได้แก่ นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด นางสาวนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ ประธานบริหารสายงานปฎิบัติการ (Chief Operating Officer) บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และเลขาธิการองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ว่าที่ร้อยตรีสรวุฒิ วิเศษสงวน ผู้อำนวยการเขตคลองสาน ดร.เขมนิจ จามิกรณ์ ศิลปินนักแสดงผู้ทำงานด้านสิ่งแวดล้อม นพ.ขจร อินทรบุหรั่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตากสิน คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สื่อมวลชน และประชาชน
● ความพร้อมของ กทม. ในการจัดประชุมเอเปค
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.รับผิดชอบในเรื่องความสะอาดเรียบร้อยในการเตรียมต้อนรับ ซึ่งเราได้ดำเนินการเต็มที่ตามแผนปฏิบัติการ โดยได้มีการมอบหมายงานชัดเจน เช่น การปรับปรุงผิวถนนในบริเวณที่ผู้เข้าประชุมจะใช้ การตกแต่งพื้นที่บริเวณศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์และพื้นที่โดยรอบ มีการซ้อมร่วมกับฝ่ายความมั่นคงในการเตรียมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ รวมไปถึงมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ยังได้มีการซักซ้อมและฝึกอบรมพนักงานเก็บขยะ พนักงานกวาด ที่ดูแลความสะอาดในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ช่วยเป็นหูเป็นตาร่วมกับฝ่ายความมั่นคง คิดว่าทุกอย่างพร้อมเดินหน้าไป ส่วนเรื่องการปิดถนนหรือสถานีรถไฟฟ้าศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์คงต้องรอวันที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งว่าจะต้องปิดช่วงเวลาไหนถึงช่วงเวลาไหน ในส่วนของสวนเบญจกิติ จะปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 14 – 20 พ.ย. 65 สำหรับภาพรวม กทม.เป็นฝ่ายสนับสนุน และมีความพร้อมตามข้อสั่งการที่ได้รับมอบหมายมา
● เชิญชมงานแสดงนวัตกรรมความรู้สู่ความยั่งยืน “APEC 2022 Thailand : Showcase at ICONSIAM” บัดนี้ถึงวันที่ 20 พ.ย. 65
ในโอกาสที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia Pacific Economic Cooperation : APEC) หรือเอเปคปี 2565 กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ในฐานะพันธมิตรด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคปี 2565 ของไทย จึงได้ร่วมกับ กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ จัดงาน “APEC 2022 Thailand : Showcase at ICONSIAM” ระหว่างวันที่ 9 – 20 พ.ย. 65 ณ เจริญนคร ฮอลล์ ชั้น M ไอคอนสยาม งานแสดงนวัตกรรมความรู้สู่ความยั่งยืน APEC 2022 Thailand เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับการประชุมเอเปค ภายใต้แนวคิด Open. Connect. Balance. หรือ “เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” พร้อมสร้างการรับรู้ให้คนไทยภาคภูมิใจและมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในครั้งนี้ โดยนำเสนอในรูปแบบจำลองเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตยั่งยืน
ภายในงานพบกับการจัดแสดงนวัตกรรมและองค์ความรู้ต่าง ๆ ตามแนวทางการสร้างสมดุลในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้โมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio–Circular–Green Economy Model หรือ BCG Economy Model) ในรูปแบบจำลองเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตยั่งยืน โดยแบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็น 4 โซน ประกอบด้วย
1. นิทรรศการประวัติความเป็นมาและความสำคัญของเอเปค นำเสนอเรื่องราวตลอด 33 ปี แห่งความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แหล่งบ่มเพาะทางความคิดของภูมิภาคที่ไม่เคยหยุดพัฒนา และในครั้งนี้ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพ APEC 2022 พร้อมเปิดกว้างสู่ทุกโอกาส เชื่อมโยงในทุกมิติ และสร้างสมดุลในทุกด้าน สู่การพัฒนาเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของทุกคน
2. จัดแสดงนวัตกรรมและองค์ความรู้เกี่ยวกับ Bio–Circular–Green Economy Model หรือ BCG นำเสนอเนื้อหาของโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่ Bio Economy การส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมด้วยนวัตกรรม ระบบเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรชีวภาพอย่างคุ้มค่า Circular Economy การจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ (360˚ Waste Journey) และ Green Economy ลดภาวะโลกร้อน ระบบเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสมและคุ้มค่า กระจายความมั่นคงอย่างทั่วถึง พร้อมยกระดับคุณภาพความเป็นอยู่และลดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม
3. โมเดลธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศไทยด้วยแนวคิด Bio–Circular–Green Economy Model หรือ BCG จัดแสดงข้อมูลและนวัตกรรมของ 4 ประเภทธุรกิจ ที่สอดคล้องกับวาระแห่งชาติของรัฐบาลที่ได้กำหนดนโยบายการขับเคลื่อน ได้แก่ “เกษตรและอาหาร” โดยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (โออาร์) “สุขภาพและการแพทย์” โดย โรงพยาบาลตากสิน “พลังงาน วัสดุ และเคมีชีวภาพ” โดย บริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด เอสซีจี หรือ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด และ “การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์” โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
4. เวทีกิจกรรมเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับ Bio–Circular–Green Economy Model หรือ BCG โดยผู้ประกอบการ SME ที่ประสบความสำเร็จจากการนำโมเดลเศรษฐกิจ BCG ไปปรับใช้ในธุรกิจ สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าก้าวสู่ตลาดโลกได้