“รอบรั้วฯ” ขอหยิบการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในหน่วยงานของ กทม. ขึ้นมาหน่อย หลังเป็นหนึ่งนโยบายหลักที่ “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” ประกาศเอาจริงเอาจังตั้งแต่รับตำแหน่งใหม่ และที่ผ่านมาก็มีผลงานแจ้งเบาะแสจับกุมให้เห็น
แต่…จากเคสล่าสุดสะเทือน “เสาชิงช้า” อีกครั้งเมื่อ บก.ปปป. ผลึกป.ป.ท. บุกจับ “นายช่างโยธา” ชำนาญงาน กองจัดกรรมสิทธิ์ สำนักงานโยธาฯ สังกัด กทม. เรียกรับสินบน 9 ล้านบาท แลกช่วยแก้แบบแนวเขตโครงการถนนเลียบวารี ไม่ให้เข้าเขตสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งย่านหนองจอก
หลายคนสงสัย ขนาด “พ่อเมือง” ลั่นชัด “ไม่ทนต่อการทุจริตคอร์รัปชัน” ซ้ำตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตกรุงเทพมหานคร” รับแจ้งเบาะแสทุกช่องทางทำไมยังกล้า???
เปิดหน้าสถิติตั้งแต่ ก.พ. 66-มี.ค. 67 มีเรื่องร้องเรียนรวม 750 เรื่อง เป็นด้านโยธา 218 เรื่อง ในจำนวนนี้อย่างที่เห็นหลายเรื่องถูกส่ง “เช็กบิล” และแม้จะมีอุทาหรณ์ให้เห็น แต่บุคลากรบางรายกลับไม่กลัว กล้าเรียกรับสินบน หากิน “ใต้โต๊ะ” ต่อ โดยเฉพาะ 4 สายงานหลักเสี่ยงทุจริต คือ สายงานโยธาฯ สายงานเทศกิจ สายงานรายได้ และสายงานสิ่งแวดล้อม
…หรือเพราะผลประโยชน์ข้างหน้ามากพอยอม “เสี่ยง” หรือคิดว่าสุดท้าย ผู้บริหารก็หมดวาระ การปราบก็ทุเลา เรื่องราวค้างคาอาจไม่ถูกสืบสวนต่อ หรือที่ฝัง รากลึกมากกว่านั้น อาจเพราะบางคนวางใจมี Back Up ใหญ่คุ้มครอง เลยไม่กลัวโทษ
เนื่องจากโทษทางวินัย สูงสุดก็แค่โดนไล่ออก แต่สุดท้ายต้องยอมรับว่าระบบราชการไทยการใช้เส้นสายวิ่งเต้นให้โทษเบาบางลง จนสุดท้ายอาจจะเหลือแค่ย้าย พักราชการ หรือ ปลดออก แล้วก็วนกลับมาวงจรเดิม
นาทีนี้จึงเป็นโจทย์ที่ “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” อาจต้องทวนการบ้านให้มากขึ้น เพราะสุดท้ายคำสั่งนั้นก็อาจกลายเป็นแค่กระดาษแผ่นเดียว หมดฤทธิ์ไปพร้อมวาระพ่อเมือง.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 24 พ.ค. 2567