เมื่อวันที่ 6 มี.ค.67 ที่ห้องสุทัศน์ ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม พ.ศ.2567 สำหรับการรับมอบทรัพย์สินระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 โดยมีนายจักกพันธุ์ ผิวงาม และนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. นายเฉลิมพล โชตินุชิต และนายศุภกฤต บุญขันธ์ รองปลัด กทม. คณะกรรมการควบคุมการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม พ.ศ.2567 สำหรับการรับมอบทรัพย์สินระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักการคลังบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ที่ประชุมได้หารือการกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม พ.ศ.2567 สำหรับการรับมอบทรัพย์สินระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ใน 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1.ร่างบันทึกข้อตกลงการมอบหมายให้กรุงเทพธนาคม (เคที) เป็นผู้บริหารจัดการเพื่อให้ กทม.สามารถรับมอบงาน E&M 2.มูลค่าและงวดการชำระเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม พ.ศ.2567 สำหรับการรับมอบทรัพย์สินระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) และ 3.ขั้นตอนและวิธีการชำระเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม พ.ศ.2567 สำหรับการรับมอบทรัพย์สิน ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายคณะกรรมการพิจารณาประเด็นดังกล่าวอย่างรอบคอบ กระบวนการต้องถูกต้องและรัดกุมตามข้อกฎหมาย โดยนัดการประชุมเพื่อหารือและพิจารณาแนวทางครั้งต่อไปในวันที่ 12 มี.ค.67
ประธานที่ปรึกษา กล่าวว่า ผู้ว่าฯ กทม.อยากให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณครั้งนี้รอบคอบจึงตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นโดยวันนี้เคทีมาอธิบายที่มาที่ไปว่าเป็นอย่างไร มีความเหมาะสมหรือไม่ตัวเงินและมูลค่าที่มีการตรวจสอบแล้วเป็นมูลค่าเท่าไร ค่าใช้จ่ายทางการเงินเป็นเท่าไร ซึ่งทางเคทีได้ตรวจสอบตัวเลขที่เหมาะสมและแผนการชำระเงิน มานำเสนอให้คณะกรรมการทราบ โดยคณะกรรมการชุดนี้ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินและผู้ทรงคุณวุฒิด้านระเบียบและกฎหมายเข้าร่วม ในการช่วยพิจารณาประเด็นที่ดำเนินการเป็นอย่างไรผลเป็นอย่างไร บวกหรือลบเงื่อนไขสัญญาถูกต้องตามหลักการหรือไม่ กทม. ได้ประโยชน์อย่างไรซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะทำให้ดีที่สุดให้เกิดความรอบคอบมากที่สุดคาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จไม่เกินเดือน มี.ค.67.
ที่มา: นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 7 มี.ค. 2567